NIDays 2015 เป็นกิจกรรมประจำปีที่ เนชั่นแนล อินสทรูเม้นทส์ จัดขึ้นทั่วภูมิภาค โดยการจัดงานในปีนี้ได้เน้นถึงความโดดเด่น ด้วยการแสดงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมล่าสุดในระบบการทดสอบ การตรวจวัด และระบบฝังตัว
เนชั่นแนล อินสทรูเม้นทส์-NI (Nasdaq: NATI) ผู้ให้บริการโซลูชั่นที่ช่วยให้วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ทุกแขนง แก้ปัญหาความท้าทายทางด้านวิศวกรรมที่สำคัญ ๆ ของโลก จัดงานประจำปี NIDays Graphical System Design Conference 2015 ที่กรุงเทพฯ โดยเชิญวิศวกร นักการศึกษา และนักวิทยาศาสตร์เข้าร่วมงาน ในงานเน้นเนื้อหาทางเทคนิคด้านระบบทดสอบไร้สายตัวใหม่ของ NI (NI’s new Wireless Test System: WTS)
นายชานเดริน ไนเออ รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เนชั่นแนล อินสทรูเม้นทส์กล่าวว่า “ลูกค้าของเรากำลังเผชิญหน้ากับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของระบบวิศวกรรมที่ชาญฉลาด และมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งระบบดังกล่าวอยู่ในโลกของการที่อุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมเชื่อมต่อถึงกัน (Industrial Internet of Things: IIoT) นอกจากการเชื่อมต่อกันของเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับโรงงาน หรือสมาร์ทกริดต่างๆ ซึ่งเป็นสายส่งพลังงานที่ถาวร เนชั่นแนล อินสทรูเม้นทส์ยังคงแสดงความมุ่งมั่นของเราที่จะให้การสนับสนุนวิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ ในการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม และประสิทธิภาพการผลิต ด้วยวิธีการนำเสนอแบบ Platform-based"
งาน NIDays เปิดโอกาสให้วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการ สร้างเครือข่ายและติดต่อสื่อสารกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีความต้องการ และมีความสนใจคล้ายกันจากภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ รวมถึงพันธมิตร และลูกค้าของ NI ได้ร่วมแลกเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นล่าสุดที่นำมาจัดแสดงในงาน ระหว่างงาน มีการจัดแสดงแอพพลิเคชั่นด้านระบบทดสอบประสิทธิภาพสูง รวมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์ และแอพพลิเคชั่นระบบทดสอบแบบอัตโนมัติ รวมถึงซอฟต์แวร์การออกแบบระบบ LabVIEW 2015
ซอฟต์แวร์ NI LabVIEW 2015 มีการเพิ่มความเร็วในการทำงานให้เร็วขึ้น และพัฒนาวิธีการตรวจสอบการทำงาน (Debug) ของโปรแกรมที่กำลังพัฒนาให้เร็วขึ้นเพื่อช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาระบบที่ตนสร้างสรรค์ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถนำโค้ดเดิม และกระบวนการทางวิศวกรรมมาใช้ได้ทั่วทั้งระบบ ซอฟต์แวร์ LabVIEW สร้างขึ้นเพื่อช่วยเร่งประสิทธิภาพด้านวิศวกรรม ด้วยการรวบรวมฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาประหยัดเวลาและเงินท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เงื่อนไขต่าง ๆ และความกดดันในการที่จะทำให้โซลูชั่นออกสู่ตลาดหรือมีการนำไปใช้งานเพิ่มมากขึ้น
เพื่อให้ตอบโจทย์เงื่อนไขต่าง ๆ ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน (IIoT) แพลตฟอร์มของ NI เป็นการรวบรวมระบบอัจฉริยะ การเชื่อมต่อ และสื่อสารระหว่างระบบเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและมีคุณค่าต่อลูกค้า ฮาร์ดแวร์ที่ฝังตัวใหม่ เป็นสถาปัตยกรรมเปิด ยืดหยุ่น ปรับคอนฟิกูเรชั่นได้ (LabVIEW Reconfigurable I/O: RIO) ซึ่งคอนโทรลเลอร์ในการผสานรวมประสิทธิภาพสูง (CompactRIO Controller) ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับภาคอุตสาหกรรม ส่วน Controller for FlexRIO เหมาะสำหรับนักออกแบบที่ต้องการให้แอพพลิเคชั่นแบบฝังตัวมีประสิทธิภาพสูง และและ Single-Board RIO Controller สำหรับนักออกแบบที่ต้องการให้แอพพลิเคชั่นแบบฝังตัวของตนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
โซลูชั่นใหม่ที่โดดเด่นอีกหนึ่งโซลูชั่นคือ Wireless Test System (WTS) ของ NI ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายของระบบทดสอบการผลิตไร้สายขนาดใหญ่ แม้ว่าบริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายของความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้นของการทดสอบแบบไร้สาย บริษัทฯ ต่าง ๆ ยังสามารถมั่นใจได้ว่าค่าใช้จ่ายในการทดสอบจะลดลง แต่ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นได้ ด้วยระบบที่ทำให้การวัดผลเร็วขึ้น และการทดสอบแบบคู่ขนาน
กล่าวโดยสรุป การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของข้อมูลด้านวิศวกรรม ความชาญฉลาดของระบบต่าง ๆ และระบบวัดผลที่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใส่หรือฝังความชาญฉลาดและกระบวนการประมวลผลต่าง ๆ ไว้ในจุดที่รวบรวมข้อมูลไว้ได้ และดึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นที่สุดมาใช้ คอนโทรลเลอร์ CompactDAQ ซึ่งเป็นคอนโทรลเลอร์ตัวใหม่ที่มีแบบ 4 และ 8 ช่องเสียบ ใช้หน่วยประมวลผลของ Intel Atom quad-core 1.91 GHz E3845 สามารถตั้งโปรแกรมได้ด้วยซอฟต์แวร์การออกแบบระบบตัวใหม่ คือ LabVIEW 2015 ซึ่งช่วยให้วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์สามารถจัดระบบการรวบรวมข้อมูลของตนได้ตามความต้องการ เช่นการเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล ความชาญฉลาด และฟังก์ชั่นที่ใช้ในการควบคุม
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน NIDays กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ http://thailand.ni.com/nidays