นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย พม่า กัมพูชาและลาว บริษัท เอบีบี จำกัด เปิดเผย ในงานเปิดตัวหุ่นยนต์ “ยูมี” ว่า บริษัทให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทย และพม่า เนื่องจากตลาดธุรกิจอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงานมีขนาดใหญ่ โดยแนวทางรุกธุรกิจในไทย ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวหุ่นยนต์ยูมี(YuMi) เข้าทำตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3,000-4,000 ตัวต่อปี และมีการเติบโตต่อเนื่อง ขยายไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการหยิบจับเพื่อความสะอาดปลอดภัยด้านอาหาร การบรรจุภัณฑ์ และการยกเคลื่อนสินค้า จากในอดีตหุ่นยนต์จะใช้งานจำกัดในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์เท่านั้น
หุ่นยนต์ยูมีสามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญการขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยยูมีถือเป็นหุ่นยนต์แบบ 2 แขนกล ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างแท้จริง หยิบจับและประกอบชิ้นส่วนพลาสติกได้เหมือนมนุษย์ มีความแม่นยำ ซึ่งจะช่วยทำงานแทนมนุษย์ได้ในเวลาที่เร่งรีบในการเพิ่มกำลังการผลิตหรือมีพนักงานหยุดงาน
“สำหรับแนวทางการทำตลาดหุ่นยนต์ยูมีจะโฟกัสกลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมการผลินชิ้นส่วนพลาสติก และอิเล็กทรอนิกส์ และจะเข้าไปให้บริการลูกค้าทดลองใช้งานตามความต้องการของลูกค้า(เทเลอร์ เมด)และการเปิดตัวในไทยครั้งนี้ถือเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคอาเซียน การทำตลาดครั้งนี้บริษัทยังไม่ตั้งเป้าหมายยอดขายแต่อย่างใด เบื้องต้นต้องการสร้างรับรู้ให้กับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ ส่วนจะเข้ามาใช้งานแทนคนเลยหรือไม่อาจจะยัง เพราะไทยยังไม่ได้มีค่าแรงสูงมากนักแต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานก็เป็นปัจจัยให้ตระหนักใช้หุ่นยนต์มากขึ้น" นายชัยยศ และเพิ่มเติมว่า
ส่วนการขยายธุรกิจในประเทศพม่า บริษัทให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีด้านพลังงานเป็นหลัก เนื่องจากพม่าต้องการใช้พลังงานค่อนข้างมาก เพราปัจจุบันมีประชากร 1 ใน 3 ของ 50 ล้านคนเท่านั้นที่มีพลังงานใช้ ขณะที่ความสามารถผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ระดับ 3,500 เมกะวัตต์เท่านั้น น้อยกว่าไทยถึง 10 เท่า ที่มีกำลังผลิตราว 35,000 เมกะวัตต์ ดังนั้นเชื่อว่ารัฐบาลจะให้น้ำหนักกับการพัฒนาพลังงานในประเทศมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพตลาดสำหรับธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจในลาวด้วย เพราะเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพ รวมทั้งกัมพูชาที่อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด
"ไทยยังเป็นประเทศยุทธศาสตร์ของเอบีบี เพราะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีศักยภาพอีกมาก อย่างตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เราเป็นผู้ใช้จำนวนมากไม่เกินอันดับ 15 ของโลก ส่วนพม่าแม้จะเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 6-7% ต่อปี แต่เมื่อเทียบขนาดตลาดกับไทย ไทยก็ยังสำคัญอยู่มาก แม้ในปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การส่งออกอยู่ในภาวะติดลบ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายบริษัทเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทั้งปีนี้บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโตได้เล็กน้อย หรือเป็นอัตรา 1 หลัก ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ถือว่าพอใจ " นายชัยยศ กล่าวทิ้งท้าย