นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน พิธีเปิดการสัมมนาวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 จัดขึ้นโดย สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกและบุคลากรที่มีวิชาชีพด้านการประปา อาทิเช่น การประปาส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัทเอกชน ได้มีโอกาสร่วมพบปะและประชุมสัมมนาทางวิชาการ เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงานด้านการประปา ตลอดจนรับทราบผลการดำเนินงานและแผนบริหารกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมที่จะมีขึ้นในอนาคต ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีและชื่นชมการทำงานของสมาคมการประปาแห่งประเทศไทย หรือ สปปท. ที่ได้ดำเนินการอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการด้านการประปามาตลอด 44 ปี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสมาคมเมื่อปี พ.ศ.2514 และในปีนี้ทราบว่าทางสมาคมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรและพลังงาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำประปาสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง ตลอดจนเป็นการสนองนโยบายรัฐบาล และในปี 2559 เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ภัยแล้งมีแนวโน้มที่ค่อนข้างรุนแรงในรอบ 30 ปี แม้ว่าในช่วง 1 - 2 เดือนที่ผ่านมาจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ แต่น้ำในเขื่อนทั่วประเทศไทยก็ยังมีปริมาณเฉลี่ยเพียงร้อยละ 58 น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2557 ซึ่งมีปริมาณร้อยละ 64 สถานการณ์ภัยแล้งในครั้งนี้จึงกระทบต่อทุกภาคส่วนทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และการผลิตน้ำประปาเพื่อให้บริการแก่ประชาชน กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อปัญหาดังกล่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมาได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และทุกหน่วยงานในสังกัด ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อสร้างความตระหนักถึงการใช้น้ำอย่างประหยัด และรู้คุณค่าผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำเนินโครงการ “ช่วยราษฎร์ ช่วยรัฐ ช่วยประหยัดน้ำประปา” การสำรวจท่อรั่วภายในบ้านพักอาศัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย “Home Care Center”โครงการ “ประปาทันใจ คนไทยมีสุข” และให้มีทีม “มิสเตอร์ประปา” ซ่อมแซม ตรวจสอบ แก้ไขปัญหาถึงบ้านโดยไม่มีวันหยุดเพื่อให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2558 ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีนโยบายให้ภาครัฐช่วยกันลดการใช้น้ำอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
โอกาสนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญกับการใช้น้ำ หากทุกคนร่วมมือกันประหยัดน้ำแม้จะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันเป็นภาพรวมก็จะสามารถประหยัดน้ำได้เป็นปริมาณมาก ถ้าเราทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจังเชื่อว่าจะสามารถฝ่าวิกฤตน้ำแล้งในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล: http://www.thaigov.go.th/