ที่มา : กระทรวงการคลัง
เอสเอ็มอีแบงก์ ยิ้มรับความสำเร็จ กระตุ้นการจับจ่าย สร้างโอกาสและเป็นช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์ SMEs ขนาดเล็กและวิสาหกิจชุมชนคุณภาพดีทุกภูมิภาค ในงานสุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย รวม 24 วัน ระหว่างวันที่ 2 – 25 ตุลาคม 2558 ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม มีผู้เข้าชมงานรวมกว่า 65,000 คน สร้างรายได้จากจำหน่ายรวมกว่า 17 ล้านบาท ตลอดจนมีผู้มาขอใช้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% กว่า 450 ล้านบาท
พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการจัดงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” 24 วัน นับว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและเอสเอ็มอีแบงก์ รวมทั้งองค์กรพันธมิตร ภาครัฐและเอกชนได้สานต่อแนวคิดของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการจัดเวทีเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ SMEs ขนาดเล็กและวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค มาจำหน่ายให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีทั้งกลุ่มคนไทยนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเยี่ยมชมงานอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้เปิดตลาดการค้าใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังได้รับประสบการณ์ในการจำหน่ายสินค้าและกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ การส่งเสริมการตลาด การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาต่อยอดด้านการตลาดของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวต่อไป
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมแห่งนี้ มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 65,000 คน มีสินค้าคุณภาพจากทั่วภูมิภาคมาจำหน่ายสินค้า 194 ร้านค้า และมีร้านค้าสวัสดิการมาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ ร้านค้าจากโครงการคืนคนดีสู่สังคม ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยภายในงานเป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินอาจไม่สูง เนื่องจากเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชนขนาดเล็ก แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะได้รับจากการเข้าร่วมงาน คือ การได้เปิดโลกทัศน์ในการค้าขาย สามารถต่อยอดธุรกิจเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อกิจการตัวเองในอนาคต
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีกิจกรรมเติมเต็มองค์ความรู้ให้คำปรึกษาแนะนำด้านธุรกิจ ซึ่งมีผู้มารับบริการปรึกษาด้านการเขียนแผนธุรกิจกว่า 103 ราย รับบริการขึ้นทะเบียน SMEs จาก สสว. กว่า 272 ราย ตรวจเครดิตบูโรฟรีกว่า 631 ราย ปรึกษาเชิงธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์กว่า 102 ราย และรับคำแนะนำทำบัญชีครัวเรือนจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กว่า 361 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจเข้ารับคำปรึกษาแนะนำและยื่นขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% ต่อปีจากเอสเอ็มอีแบงก์จำนวนกว่า 196 ราย เป็นวงเงินกว่า 450 ล้านบาท และมีนักเรียนนักศึกษาที่มีไอเดียสร้างสรรค์ต้องการเริ่มต้นธุรกิจจากสถาบันการศึกษาทุกภูมิภาคได้สมัครเข้าร่วมโครงการปั้นธุรกิจพิชิตเงินแสนจากเอสเอ็มอีแบงก์ เสนอโครงการเข้ามาจำนวนมากถึง 74 ไอเดียธุรกิจ เพื่อรับเงินสนับสนุนเงินทุนแบบให้เปล่า และธนาคารจะให้การดูแลเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงนับว่างานนี้ได้รวบรวมทุกสิ่งไว้ภายในงานเดียวเพื่อให้บริการประชาชน ทั้งสินค้าบริการ เงินทุน องค์ความรู้เชิงธุรกิจ และสินค้าสวัสดิการราคาพิเศษ ที่นำมาจำหน่ายราคาถูกเพื่อช่วย แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ จึงนับว่างานสุดยอด SMEs ของดีทั่วไทยประสบความสำเร็จด้วยดี และยังช่วยตอบโจทย์การมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง และเป็นต้นแบบหนึ่งที่จะสานต่อให้งานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเดินหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อสร้างความสุขให้ประชาชน ทั้งผู้มาเยี่ยมชมงาน และผู้ประกอบการที่มาจำหน่ายสินค้า สร้างโอกาส SMEs สร้างรายได้ เปิดตลาดการค้าขายและเรียนรู้วงจรธุรกิจรูปแบบใหม่เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอด สร้างความยั่งยืนในธุรกิจต่อไป
ที่มา : กระทรวงการคลัง