การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 มีผลกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนซึ่งจะสร้างความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ประกอบกับการลงทุนทางด้านภาคอุตสาหกรรมที่มีมากขึ้น
โฆสิต เผยกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ว่า เรื่องนี้จะมีผลทางด้านการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนที่ดอกเบี้ยลดลงแล้วจะออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 |
. |
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ว่า เรื่องนี้จะมีผลทางด้านการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนที่ดอกเบี้ยลดลงแล้วจะออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ประกอบกับการลงทุนทางด้านภาคอุตสาหกรรมที่มีมากขึ้น จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าที่เคยระบุไว้ คือ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม การลดอัตราดอกเบี้ยนี้ก็จะมีผลทางอ้อมต่อค่าเงินด้วย เพราะเมื่อมีการลงทุนมากการนำเข้าเครื่องจักรก็จะเพิ่มขึ้น แต่คงมีผลไม่มากนักไม่เท่ากับเรื่องความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจ |
. |
ส่วนทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตจะมีการปรับลดลงไปมากกว่านี้หรือไม่นั้น ทาง กนง. ก็คงจะมีการพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการประชุมรอบต่อ ๆ ไป ซึ่งในเรื่องการดูแลค่าเงินบาทนั้นทางรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังประสานงานดูแลกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันทางภาคเอกชนก็ร่วมกันเสนอความเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยรูปแบบต่าง ๆ และทางสมาคมธนาคารไทยได้เสนอที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของโรงงานทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก เพื่อช่วยดูแลทิศทางในการรับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้น |
. |
ทั้งนี้ นายโฆสิต ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปาฐกถาพิเศษ "รัฐบาลกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา" ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) โดยย้ำกับผู้ประกอบการว่าทุกฝ่ายต้องปรับตัวร่วมกัน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการนำเงินมาช่วยเหลือเหมือนกับรัฐบาลชุดที่ผ่าน ๆ มา เพราะไม่ได้สร้างฐานความสามารถทางการแข่งขันที่แท้จริง แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องขอให้ภาคเอกชนร่วมคิดร่วมทำและร่วมเสนอแนะว่าอะไรจะเกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันต้องปรับโครงสร้างการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาให้เอสเอ็มอี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องทำควบคู่กับการดูแลค่าเงินบาท การเพิ่มนวัตกรรม โดยในส่วนภาครัฐนั้นได้เสริมสร้างความรู้การสร้างประสิทธิภาพการผลิตร่วมกับภาคเอกชน สิ่งเหล่านี้จะเป็นฐานสำคัญในการแข่งขันได้ในอนาคต |
. |
ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้นสัปดาห์หน้าทางธนาคารกรุงเทพจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับการที่ กนง.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่จะลดทั้ง 2 ขา หรืออัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้พร้อมกันหรือไม่ ขอพิจารณาเรื่องความเหมาะสมก่อน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ยก็จะมีผลทางอ้อมชะลอการแข็งค่าของเงินบาท แต่จากทิศทางเศรษฐกิจโลกและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทในระยะปานกลางยังคงผันผวนต่อไป ซึ่งทางสมาคมธนาคารไทยพร้อมเข้าไปร่วมแนะนำการปรับตัวของภาคการผลิตต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม มาตรการทางการเงินที่จะแก้ไขความผันผวนได้ระยะหนึ่ง คือ ผู้ประกอบการควรจะทำประกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและระยะยาวแล้วควรจะปรับตัว ปรับประสิทธิภาพการผลิตให้แข่งขันได้ |
. |
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.เสนอให้ธนาคารพาณิชย์รับฝากเงินในรูปเงินดอลลาร์หรือเงินตราต่างประเทอื่นนั้น ธนาคารพาณิชย์รวมทั้งกรุงเทพพร้อมดำเนินการตามข้อเสนอ หาก ธปท.เปิดทางให้ โดยดอกเบี้ยอัตราเงินฝากต่างประเทศจะเป็นเช่นไรคงจะต้องดูความเหมาะสมของแต่ละสกุลเงินนั้น ๆ เป็นหลัก |
. |
ที่มา : สำนักข่าวไทย |