เนื้อหาวันที่ : 2015-10-06 16:09:22 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 887 views

คอนเวอร์เจนซ์ฯ ร่วมกับวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย จังหวัดขอนแก่น พัฒนาโซลูชั่น Cloud-Edu ยกระดับคุณภาพระบบการศึกษาแบบบูรณาการ

บริษัท คอนเวอร์เจนซ์ซิสเทมส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาซอฟท์แวร์และระบบคลาวด์ โซลูชั่นส์สำหรับภาคการศึกษา ร่วมกับวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย จังหวัดขอนแก่นพัฒนาโซลูชั่น Cloud-Edu ซึ่งเป็นบริการบนคลาวด์แพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นทั้งในแง่ของการใช้งานและบริหารจัดการ เพื่อใช้บริหารจัดการวิทยาลัยบัณฑิตเอเชียแบบองค์รวม ทั้งในส่วนของงานบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล แผนกและคณะต่างๆ ของวิทยาลัย ระบบการรับสมัครนักศึกษา ระบบข้อมูลนักศึกษา การจัดการวางแผนการเรียนการสอนของอาจารย์และการวางแผนการเรียนของนักศึกษา พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีโอกาสติดตามนักศึกษาได้อย่างใกล้ชิดผ่านแอพลิเคชั่นบนอุปกรณ์พกพา

ด้วยโซลูชั่น Cloud-Edu ที่คอนเวอร์เจนซ์ฯ พัฒนาให้กับวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย เป็นการพัฒนาบนคลาวด์แพลตฟอร์ม จึงมีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเว็บเบราเซอร์ และแอพลิเคชั่นมือถือ โดยมีการพัฒนาให้รองรับบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ iOS ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนในส่วนของอุปกรณ์ให้กับวิทยาลัย

 

ดร.สาธิต วิทยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนเวอร์เจนซ์ซิสเทมส์ จำกัด กล่าวว่า “ทางคอนเวอร์เจนซ์ฯ มีความยินดีที่ได้พัฒนาโซลูชั่น Cloud-Edu ให้กับวิทยาลัยบัณฑิตเอเชียเพื่อยกระดับการเรียนการสอนและการบริหารจัดการวิทยาลัยเป็นคลาวด์แพลตฟอร์ม เพิ่มคุณภาพงานบริหารการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศให้มีความก้าวหน้า สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ พร้อมเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญสำหรับการปฏิรูปประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)”

“และยิ่งโลกในศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การศึกษาของไทยต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ทันยุคสมัยและทันต่อการแข่งขันในระดับสากล การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาไทยจึงเป็นสิ่งจำเป็น หากประเทศไทยสามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาไทยได้สำเร็จ จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยได้อีกด้วย“

ผศ.ดร.กษม ชนะวงศ์ อธิการบดีวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย และในนามผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้เพื่อสร้างโอกาสทางเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ประจำประเทศไทย โดยองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียแปซิฟิก (APEC - DOC) กล่าวว่า “ด้วยความคิดและปณิธานของ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ ผู้ได้รับรางวัล รามอนแมกไซไซ สาขาผู้นำชุมชน  ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ที่จะขยายโอกาสทางการศึกษา และสร้างทางเลือกใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ และสร้างทางเลือกใหม่ของนักเรียนนักศึกษา โดยได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งจากทบวงมหาวิทยาลัยพร้อมเปิดดำเนินการเรียนการสอนเมื่อ พ.ศ. 2545 ปัจจุบันวิทยาลัยบัณฑิตเอเซียเปิดสอนในระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ การตลาด การจัดการทั่วไป   การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ การจัดการธุรกิจกีฬา สาขาการจัดการธุรกิจค้าปลีก ตามโครงการเรียนฟรี มีงานทำ  (โดยความร่วมมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด มหาชน)  และหลักสูตรบัญชีบัณฑิต คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ คณะนิติศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาการจัดการเทคโนโลยีอุตสาหกรรม  และคณะพยาบาลศาสตร์ สาขาการพยาบาล ที่ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล และนอกจากนี้ นักศึกษาคณะพยาบาลของเราโดนจองตัวให้ทำงานตั้งแต่ยังศึกษาอยู่  และในระดับบัณฑิตศึกษา ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา, หลักสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำและนวัตกรรมการจัดการสุขภาพ, หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษศึกษา”

“วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีและพร้อมพัฒนาวิทยาลัยฯ ให้สามารถแข่งขันในระดับชาติ และระดับนานาชาติ เรามุ่งพัฒนาให้นักศึกษาของเรามีคุณภาพทั้งทางวิชาการและสังคม สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง มีความรู้ที่รอบด้านเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสังคมโลก และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต และการนำโซลูชั่น Cloud-Edu ที่คอนเวอร์เจนซ์ฯ พัฒนาให้กับวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ซึ่งเป็นการพัฒนาบนคลาวด์แพลตฟอร์ม มาใช้ถือเป็นการนำระบบไอทีมาบูรณาการการบริหารจัดการวิทยาลัยฯ อย่างเต็มรูปแบบ ลดความซ้ำซ้อนในการทำงานได้ในหลายๆขั้นตอน ฝ่ายบริหารทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดข้อจำกัดในการทำงาน สามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยประหยัดงบการลงทุนทางด้านอุปกรณ์ไอทีได้เป็นอย่างมาก  และเหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องการจัดการการเรียนการสอนของอาจารย์และนักศึกษา เราสามารถดูแลนักศึกษาของเราได้อย่างใกล้ชิด สามารถช่วยนักศึกษาวางแผนการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมติดตามนักศึกษาอีกด้วย”