เนื้อหาวันที่ : 2015-09-29 16:13:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 803 views

เชฟรอนจับมือ สวทช. จัดงาน Bangkok Mini Maker Fair ครั้งแรกของไทยกับมหกรรมรวมพลนักสร้างสรรค์ระดับประเทศ

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกลุ่มเมกเกอร์ในประเทศไทย จัดงาน Bangkok Mini Maker Faire มหกรรมแสดงผลงานและสิ่งประดิษฐ์ของ “เมกเกอร์” หรือผู้ที่ชอบสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมวัฒนธรรมทำเองในสังคมไทย ในระหว่างวันที่ 26 ถึง 27 กันยายน 2558 ณ ลานหน้าฮาร์ดร็อค สยามสแควร์ ซอย 11 กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีตลอดงาน

นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า “งาน Bangkok Mini Maker Faire เป็นหนึ่งกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในสังคม ทั้งเยาวชน ผู้ปกครอบ และบุคคลทั่วไป เห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเรื่องสนุก เป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทุกคน เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้น และส่งเสริมให้เยาวชนและบุคคลทั่วไป  เกิดแรงบันดาลใจและความสนใจต่อการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม (STEM) เพิ่มมากขึ้น โดยเชฟรอนและสวทช. เล็งเห็นว่าในจุดที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอลและสังคมแห่งนวัตกรรม ซึ่งขีดความสามารถของประเทศขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ งานฝีมือ หรือแม้แต่การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจ ซึ่งไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในวงการของนักวิจัย นักวิชาการ หรือผู้เชียวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น กลุ่มเมกเกอร์จึงเป็นหนี่งในรากฐานที่สำคัญของการเสริมสร้างขีด ความสามารถดังกล่าวในวงกว้าง เราจึงอยากส่งเสริมให้คนในสังคมเกิดความสนใจและหันมาสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และนวัฒกรรมกันมากขึ้น”

ดร.ทีวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “เมกเกอร์คือผู้ที่ชอบสร้างสรรค์หรือดัดแปลงสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้ได้ดังใจ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่วิศวกรหรือผู้ที่มีความรู้ในเทคโนโลยีชั้นสูงเท่านั้น งานประดิษฐ์ในขบวนการเมกเกอร์จึงมีหลากหลายตั้งแต่งานไฮเทค เช่น เครื่องพิมพ์สามมิติ กล้องโดรน ไปจนถึงงานที่ใช้พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ หรือโลหะ รวมถึงผ้า กระดาษ เซรามิกส์ ไม้ หรือแม้แต่อาหาร ต่างก็รวมอยู่ด้วยทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ให้มีความแปลกใหม่และการสร้างสรรค์ไอเดียต่างๆ ผิดแปลกจากคนอื่น การเป็นเมกเกอร์ไม่ใช่เพียงแค่งานอดิเรก แต่ผลงานของเมกเกอร์ สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจสร้างรายได้ เพราะสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม ซึ่งการผลิตสินค้าแบบอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากแบบเดิมๆ ทำไม่ได้ วัฒนธรรมทำเอง (Maker Culture) เป็นสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังเพราะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ อันเป็นพื้นฐานของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตที่กำลังเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งเป็นยุคที่ต้องการผู้ที่มีความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเหตุนี้วัฒนธรรมเมกเกอร์ที่แข็งแรงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ดร. ชานนท์ ตุลาบดี CEO และผู้ก่อตั้งบริษัทกราวิเทคไทย และ Home of Maker ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มเมกเกอร์ที่เป็นคณะกรรมการจัดงาน Bangkok Mini Maker Faire กล่าวว่า “ในประเทศไทย ขบวนการเมกเกอร์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากจำนวนของ “เมกเกอร์สเปซ” (Maker Space) หรือพื้นที่ทำงานร่วมกับของเมกเกอร์ ตลอดจนกิจกรรมให้ความรู้ และเวิร์กชอป ซึ่งมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่งในกรุงเทพและจังหวัดอื่นๆ อย่าง Home of Maker ก็ถือเป็นหนึ่งในเมกเกอร์สเปซที่เปิดโอกาสให้เมกเกอร์สามารถเข้ามาใช้งาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ อย่างไรก็ดีความสนใจในเรื่องนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น จึงนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่เชฟรอน และ สวทช. เล็งเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนเมกเกอร์ในประเทศไทย ด้วยการจัดงาน Bangkok Mini Maker Faire ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เปิดพื้นที่ให้เมกเกอร์ได้แสดงผลงาน อีกทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นของผู้ที่สนใจในด้านนี้ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้แก่ผู้เข้าชม ช่วยให้วัฒนธรรมทำเองเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น”

คุณไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “อันที่จริงคนไทยเป็นเมกเกอร์กันมานานแล้ว และทำได้ดีมากด้วย ดังจะเห็นได้จากภูมิปัญญาชาวบ้าน และเทคโนโลยีชาวบ้านที่คนไทยรู้จัดดัดแปลงและสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อใช้ในการทำงานและในชีวิตประจำวัน ดังนั้น หากเรามีการส่งเสริมให้วัฒนธรรมทำเองเป็นที่แพร่หลาย ตลอดจนให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจและสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่เมกเกอร์นิยมใช้กัน อาทิ เครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องตัดเลเซอร์ ผู้เชื่อว่าเรามีศักยภาพที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาได้อีกมาก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของโครงการ Enjoy Science สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต”

มหกรรม Bangkok Mini Maker Faire จัดแสดงผลงานของเมกเกอร์จากทั่วประเทศ ทั้งยังมีกิจกรรมและเวิร์กชอปให้ผู้เข้าชมได้ลงมือทำด้วยตัวเอง อาทิ การประกอบเครื่องพิมพ์สามมิติ จากชิ้นส่วนวัสดุเหลือใช้ หรือการแข่งขันหุ่นยนต์เห่ย ไปจนถึงการเสวนาสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนั้นทางเชฟรอนและสวทช. ยังร่วมกันประกาศผลประกวดการออกแบบจากเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ จากโครงการ Enjoy Science: Let’s Print the World พร้อมจัดแสดงผลงานของผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายภายในงานอีกด้วย โดยผู้รที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทั้งประเภทบุคคลทั่วไปและนักเรียนนักศึกษาจะได้รับรางวัลที่พักและตั๋วเครื่องบินเพื่อเข้าร่วมงาน Maker Faire ที่ประเทศเยอรมนีและเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อเปิดโลกทัศน์ในเรื่องของการสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบต่างๆ จากนักประดิษฐ์และนักออกแบบระดับโลกเพื่อนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้กลับมาช่วยพัฒนางานด้านการพิมพ์แบบสามมิติ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ทีสนใจต่อไปอีกด้วย