เนื้อหาวันที่ : 2015-09-28 10:43:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1384 views

อุตสาหกรรมเตรียมพร้อมสู่ “เศรษฐกิจดิจิทัล”

สศอ. สำรวจ ความพร้อมภาคอุตสาหกรรม สู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล พบว่า ทุกภาคส่วนยังต้องการมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน พร้อมการสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานหรือบริการจากภาครัฐ เพื่อรองรับการดำเนินงานของผู้ประกอบการในการนำดิจิตอลอิโคโนมีมาใช้

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม  เปิดเผยว่า  สศอ. ได้ศึกษาถึงความพร้อมของผู้ประกอบการไทยกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) จากการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการใน 16 สาขาอุตสาหกรรมถึงข้อดีและข้อเสียในการนำดิจิทัลอิโคโนมีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ มาตรการสนับสนุนที่ภาครัฐและเอกชนควรต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และปัจจัยพื้นฐานหรือบริการที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนเพื่อรองรับการดำเนินงานของผู้ประกอบการ รวมถึงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมบริการที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอลอิโคโนมีที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุน

ข้อดีในการนำดิจิทัลอิโคโนมีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 49.55  เห็นว่าช่วยในการติดต่อสื่อสารกับทั้งในองค์กรและนอกองค์กร รวมไปถึงติดต่อกับลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น รองมาร้อยละ 25.08 ช่วยในการทำธุรกิจ ทำให้ระบบงานคล่องตัว สะดวกรวดเร็วและสามารถทำงานได้ทุกที่  ร้อยละ 15.11 เห็นว่าช่วยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและสินค้าของบริษัทได้หลายช่องทางมากขึ้นโดยมีค่าใช้จ่ายลดลง ร้อยละ 9.06 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของงานเอกสารและค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ  ที่เหลือร้อยละ 1.21 เห็นว่าช่วยเพิ่มยอดขายให้กับอุตสาหกรรม

ส่วนข้อจำกัดในการนำดิจิทัลอิโคโนมีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการมีความคิดเห็นส่วนใหญ่ร้อยละ 43.82 เนื่องจากข้อมูลและรูปของผลิตภัณฑ์จะไม่เป็นความลับเพราะมีการโฆษณาออนไลน์ทำให้คู่แข่งรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ซึ่งอาจโดนแฮ็กข้อมูลหรือโดนคัดลอกผลงานและผลิตภัณฑ์ได้  รองมาร้อยละ 41.01 เห็นว่าความแรงและระบบเครือข่ายของสัญญาณอินเตอร์เน็ตบางครั้งช้า หรือใช้ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหากับการติดต่อสื่อสาร ร้อยละ 11.24  เห็นว่าการใช้งานผ่านระบบออนไลน์ทำให้อาจมีไวรัส แอบแฝงมาซึ่งเป็นอันตรายต่อข้อมูล  ร้อยละ 2.25 เห็นว่า บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านไอทีมีอัตราค่าจ้างค่อนข้างสูงและหายาก และร้อยละ 1.69  เห็นว่าการส่งข้อมูลที่สามารถทำได้รวดเร็ว ถ้ามีการส่งข้อมูลที่ผิดพลาดไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อบริษัทได้

เมื่อทำการสำรวจถึงมาตรการสนับสนุนที่ภาครัฐควรต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 52.86 เห็นว่าต้องจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงความรู้และข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลอิโคโนมีในการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการได้มีความเข้าใจและการนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ    ร้อยละ 30.48 เห็นว่าต้องพัฒนาและขยายเครือข่ายสัญญาณให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลและใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 8.57 เห็นว่า ต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลให้ผู้ประกอบการได้มีความเข้าใจมากขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกิจ และร้อยละ 8.10 เห็นว่าต้องสร้างมาตรการการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ใช้งานเกิดความมั่นใจในการนำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้งานในภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ด้านมาตรการสนับสนุนที่ภาคเอกชนควรต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.12  ต้องเร่งพัฒนาปรับปรุงระบบสื่อสาร สัญญาณอินเตอร์เน็ตให้มีความพร้อมและความเร็วสูงรองรับการใช้งานให้ได้ดีมากขึ้น รองมาร้อยละ 22.73 เห็นว่าต้องพัฒนาและใช้ความรู้พนักงานในองค์กรของตนเองให้มีความเข้าใจเรื่องระบบออนไลน์มากขึ้น ร้อยละ 11.62 เห็นว่า ผู้ประกอบการควรศึกษาหาข้อมูล เรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธภาพ และร้อยละ 3.54 ต้องจัดทำโปรแกรมหรือควรสร้างระบบความปลอดภัยเพื่อเป็นตัวช่วยในการใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ส่วนปัจจัยพื้นฐานหรือบริการที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนเพื่อรองรับการดำเนินงานของผู้ประกอบการในการนำดิจิทัลอิโคโนมีมาใช้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.33  เห็นว่าต้องพัฒนาและขยายเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ต วายไฟ และเพิ่มความเร็วของการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกจังหวัดเพื่อรองรับการใช้ดิจิตอลอิโคโนมีในภาคธุรกิจมากขึ้น  รองมาร้อยละ 34.01 เห็นว่าให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับดิจิตอลอิโคโนมีกับผู้ประกอบการเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์   ร้อยละ 9.14  เห็นว่าควรมีมาตรการการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ใช้งานเกิดความมั่นใจในการนำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้งานในภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น และร้อยละ 1.52 เห็นว่าควรพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อเข้ามาเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการในการรองรับการแข่งขันที่มีมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมบริการที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอลอิโคโนมี ที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 54.47 เห็นควรให้สนับสนุนในการให้บริการสัญญานอินเตอร์เน็ตและวายไฟฟรีของทางภาครัฐให้มีเครือข่ายที่ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รองมาร้อยละ 24.39 เห็นว่าควรสนับสนุนและพัฒนาในด้านการศึกษาให้สร้างและผลิตบุคลากรทางด้านไอทีที่มีความเชี่ยวชาญในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการที่มีมากขึ้นในอนาคต  ร้อยละ 10.57 เห็นควรให้สนับสนุนในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร  เพื่อให้การบริการสาธารณะแก่ประชาชนให้มีคุณภาพที่ ดีขึ้น  ร้อยละ 4.07 เห็นควรให้สนับสนุนการใช้ดิจิทัลอิโคโนมีในธุรกิจการขนส่งเพื่อให้มีความสะดวกรวดเร็วและมีต้นทุนที่ลดลง ร้อยละ 4.07 เห็นควรให้สนับสนุนและพัฒนาให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ด้วยอัตราค่าบริการไม่แพง สะดวกรวดเร็วและมีคุณภาพดี  และ   ที่เหลือร้อยละ 2.44  เห็นควรสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐปรับเปลี่ยนแนวคิดจากระบบการทำงานเดิมที่ล่าช้าเข้าสู่ระบบการทำงานดิจิตอล เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการกับประชาชนให้มากขึ้น