บริษัท ไทย อิเล็คทริคซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ไฟฟ้าและแสงสว่างครบวงจร ฉลอง 12 ปี แห่งความสำเร็จ จัดคาราวานสัญจร HI-TEK ROADSHOW 2015 คืนกำไรครั้งใหญ่ให้กับลูกค้าทั่วภูมิภาคอีสานและตะวันออกรวมกว่า 23 จังหวัด เดินหน้ารุกตลาดกลุ่มสินค้า LED แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง ECO Series และ HI-EFF Series ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์คุณภาพประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์การใช้งานกลุ่มครัวเรือนและกลุ่มอุตสาหกรรม มั่นใจสิ้นปียอดขายโตมากกว่า 15%
นายสุรินทร์ วรสาธิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย อิเล็คทริคซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (จำกัด) เจ้าของเครื่องหมายการค้า HI-TEK เปิดเผยว่า “ไทย อิเล็คทริคซิตี้ เรามุ่งมั่นในการพัฒนาพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 นี้ ไทย อิเล็คทริคซิตี้ จะฉลอง 12 ปี แห่งความสำเร็จ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ไฟฟ้าและแสงสว่างครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ภายใต้เครื่องหมายการค้า HI-TEK (ไฮเทค) อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบด้วย การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้วยมาตรฐาน 4 ข้อ ที่เรามี ได้แก่ นวัตกรรมทันสมัย โดยเราไม่หยุดยั้งในการสรรสร้างผลิตภัณฑ์และจัดหาสินค้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้บริการกับลูกค้า ประหยัดพลังงาน เราคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสินค้ามาตรฐานสูง หลอดประหยัดไฟ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทุกระดับ
ความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับการรับรองทางด้านความปลอดภัย และ EMC (มาตรฐานเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์) จากสำนักงานมาตรฐานทั่วโลก ราคา ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพจากบริษัทผู้ผลิตคนไทย ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ด้วยมาตรฐานดังกล่าวทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการของเราได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งภายในประเทศและภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สามารถเติบโตควบคู่ไปกับความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง”
นายสุรินทร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ไทย อิเล็คทริคซิตี้ มีสินค้ามากกว่า 800 รายการ ภายใต้เครื่องหมายการค้า HI-TEK ซึ่งเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ของเราเองประกอบด้วยสินค้าประเภท โคมไฟ, หลอดไฟทุกประเภท ทั้ง หลอดไส้ ฟลูออเรสเซนต์ แอลอีดี, บาลาสต์, เบรกเกอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ โดยในปี 2558 ทางบริษัทฯ มีแผนเชิงรุกในการขยายตลาดของกลุ่มสินค้า LED โดยได้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งประสิทธิภาพความสว่าง การใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ทนทานและประหยัดพลังงาน สู่ตลาด โดยบริษัทฯ ต่อยอดจากสินค้าเดิมสู่สินค้าใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าเก่าและใหม่ โดยสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม LED 2 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย
ECO Series ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป
HI-EFF Series ผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 40,000 ชม. ประสิทธิภาพความสว่างระดับสูงกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HI-EFF Series คือกลุ่มภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มลูกค้าครัวเรือนระดับกลางบนขึ้นไป
โดยบริษัทฯ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ช่องทางโมเดิร์นเทรด ทั้งในเขตกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด อาทิ ไทวัสดุ, โกลบอลเฮาส์, ดูโฮม, เฮาส์แอนด์โฮม ฮาร์ดแวร์เฮาส์ รวมถึงงานโครงการซึ่งเป็นงานระบบไฟฟ้าสว่างทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลักและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และในปี 2558 บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ในรูปแบบอี-คอมเมิร์ช เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน และเป็นการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าโดยตรง อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของไทย อิเล็คทริคซิตี้ ได้ที่ www.hi-tek.co.th
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมแผนการตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มครัวเรือน รวมทั้งขยายการรับรู้เกี่ยวกับการฉลอง 12 ปี ของ ไทย อิเล็คทริคซิตี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมงบการตลาดและส่งเสริมการขายในช่วงจัดกิจกรรมสัญจร “HI-TEK ROADSHOW 2015” กว่า 10 ล้านบาท เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และคืนกำไรครั้งใหญ่ให้กับลูกค้า กว่า 23 จังหวัด ทั่วทั้งภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2558 รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านคลื่นวิทยุ การประชาสัมพันธ์ผ่านป้ายหน้าร้าน การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับร้านค้า”
“ปัจจุบันผู้บริโภคในกลุ่มครัวเรือนมีความต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม LED มากขึ้น ประกอบกับมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี LED มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากโครงการรณรงค์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ LED เติบโตขึ้นจนมีสัดส่วนถึง 50% ของตลาดหลอดไฟและโคมไฟซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% จากสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น และผู้บริโภคเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยกันอีกครั้งในช่วงปลายปี” นายสุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย