กระทรวงอุตสาหกรรม ออกประกาศกำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารถยนต์เริ่มติด ECO Sticker บนรถยนต์ใหม่ทุกคันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใส และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ ยกเว้นให้กับรถยนต์ตกรุ่น และรถยนต์ค้างสต็อก ไม่จำเป็นต้องติด ECO Sticker
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศเรื่อง การแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล ตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใส และเป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถนำไปเปรียบเทียบคุณสมบัติของรถยนต์แต่ละรุ่น เพื่อประโยชน์ต่อการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ได้ รวมทั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐในการตรวจสอบมาตรฐานรถยนต์และการจัดเก็บภาษีตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่
ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดให้ผู้ที่จะขอลงทะเบียนที่สามารถยื่นขอป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO Sticker นั้น ต้องเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารถยนต์เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ รวมทั้ง กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับ ECO Sticker ซึ่งประกอบด้วย รูปแบบ ขนาด และคำอธิบายต่างๆ โดย ECO Sticker จะมีขนาดเท่ากระดาษ A4 ติดไว้ที่กระจกบังลมด้านหน้า (Windshield) หรือไว้ที่กระจกด้านข้าง (Side Window) ในตำแหน่งที่สามารถอ่านข้อมูลจากด้านนอกตัวรถยนต์ได้อย่างสะดวกและชัดเจน โดยผู้ซื้อรถยนต์หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ในการปลด ECO Sticker ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไป สามารถดาวน์โหลดประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ www.car.go.th
นายอุดม กล่าวต่อว่า “ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจะต้องติด ECO Sticker ไว้ที่รถยนต์ใหม่ทุกคัน ก่อนที่จะส่งรถยนต์คันนั้นไปยังผู้จำหน่ายรถยนต์ในเครือข่าย (Dealer) หรือสถานที่จัดแสดงรถยนต์ หรือสถานที่จำหน่ายรถยนต์ อย่างไรก็ตาม จะมีการยกเว้นให้กับรถยนต์ตกรุ่นหรือรถยนต์ค้างสต็อก ซึ่งหมายถึง รถยนต์รุ่นที่ผลิตในประเทศที่ได้ยุติสายการผลิตหรือรถยนต์ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 58 ไม่จำเป็นต้องติด ECO Sticker” นายอุดมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีรุ่นของรถยนต์ที่จำเป็นต้องติด Eco Sticker จำนวน 416 รุ่น ประกอบด้วยรถนำเข้า 137 รุ่น และรถภายในประเทศ 279 รุ่น และคาดว่าจะมีรถรุ่นใหม่เพิ่มเติมที่จะเข้ามาในอนาคตอันใกล้ และรถรุ่นใหม่เหล่านั้นก็จะต้องมาขอลงทะเบียนเพื่อยื่นขอป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ Eco Sticker กับทางกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป
ป้ายแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker) จะประกอบด้วยข้อมูลคุณลักษณะ คุณสมบัติ และสมรรถนะของรถยนต์ตามมาตรฐานสากลของสหประชาชาติ (United Nation–UN) ซึ่งได้รับการตรวจสอบและรับรองโดยประเทศภาคีสมาชิก UN WP29 และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดังนั้น เมื่อเห็น ECO Sticker ติดบนรถยนต์คันที่ซื้อ ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า รถยนต์คันนั้นไม่ใช่รถยนต์ตกรุ่นหรือรถยนต์ค้างสต๊อก อีกทั้ง ยังมั่นใจได้ว่า สมรรถนะต่างๆ ของรถยนต์ที่ปรากฏบน ECO Sticker นั้น เช่น อัตราการใช้น้ำมันอ้างอิง (หน่วย ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) และระดับความปลอดภัยของรถยนต์ ได้แก่ มาตรฐานการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าของตัวรถ มาตรฐานการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านข้าง และมาตรฐานด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) เป็นต้น ได้รับการตรวจสอบและรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงการแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากลตามแนวทางประกาศฉบับนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดเปิดตัวเว็บไซต์ www.car.go.th ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ โดยเว็บไซต์จะเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ ECO Sticker รายละเอียดและสมรรถนะจริงของรถยนต์แต่ละคันให้กับผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมถึงการแสดงข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันที่แท้จริงของรถยนต์แต่ละรุ่นที่อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน สามารถนำไปเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ได้
………………………………………………………….
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
2 กันยายน 2558
สามารถดาวน์โหลดประกาศเรื่อง การแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล และ
Press Release ฉบับนี้ ได้จาก www.car.go.th หรือ QR Code ข้างล่าง