นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเอปสันประสบ ความสำเร็จอย่างมากในตลาดโปรเจ็คเตอร์ของเมืองไทย มีสัดส่วนยอดขายมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 34% และหาก พิจารณาแยกตามรุ่นสินค้าแล้ว เอปสันยังครองเจ้าตลาดตั้งแต่รุ่น Entry หรือเครื่องขนาดเล็กด้วยส่วนแบ่ง 43% เครื่องขนาด 2,000 – 3,999 ลูเมนส์ 33% เครื่องขนาด 4,000 – 5,000 ลูเมนส์ 19% ทั้งยังมีสินค้าวางจำหน่ายใน ตลาดขณะนี้เกือบ 60 รุ่น มากกว่าคู่แข่งรายอื่น จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ใช้ตามบ้าน โฮมออฟฟิศ เอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และสถาบันศึกษา

“เป้าหมายสำคัญของเอปสันในปีนี้จึงอยู่ที่การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโปรเจ็คเตอร์รุ่นใหญ่ หรือเครื่อง High Performance ที่มีระดับความสว่างตั้งแต่ 6,000 ลูเมนส์ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันเอปสันมีส่วนแบ่งตลาด อยู่ที่ 6% ตลาดเครื่อง High Performance ถึงแม้จะไม่ใช่ตลาดใหญ่ มีจำนวนเครื่องขายต่อปีไม่มากเมื่อเทียบกับ ตลาดอื่นๆ แต่มูลค่าต่อเครื่องค่อนข้างสูง และเป็นตลาดที่น่าจับตา เพราะมีอัตราการขยายตัวทุกปี โปรเจ็คเตอร์ High Performance ได้รับความนิยมในกลุ่มออร์แกไนเซอร์และธุรกิจพัฒนาคอนเท้นท์สำหรับงานอีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงการใช้งานในสถานที่ขนาดใหญ่ เช่น หอประชุมในองค์กร หรือสถาบันศึกษา ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม และ งานนิทรรศการ เอปสันจึงได้ออกสินค้ารุ่น G-Series ในวันนี้ พร้อมกันทีเดียว 7 รุ่น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถครองอันดับหนึ่งในทุกกลุ่มสินค้าโปรเจ็คเตอร์และทุกตลาดได้ภายใน 3 ปี”

“ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ จัดงานอีเว้นท์โดยมุ่งสร้างแบรนด์องค์กรและสินค้าให้เป็นที่จดจำ ควบคู่กับการเพิ่มยอดขาย ความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าประสงค์ได้กลายเป็นโจทย์สำคัญสำหรับออร์แกไนเซอร์ คอนเท้นท์ และการนำเสนองานที่แปลกใหม่จึงถูกพัฒนาขึ้นอยู่เสมอ และโปรเจ็คเตอร์ High Performance กลายเป็นโซลูชั่น ที่ตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เช่น การทำ 3D Projection Mapping และ Edge Blending หรือการสร้างภาพ พาโนราม่าด้วยการต่อภาพจากโปรเจ็คเตอร์หลายเครื่อง ไปจนถึงการฉายภาพบนพื้นผิวที่ไม่ใช่จอสี่เหลี่ยม ไม่ว่า จะเป็นจอโค้งหรือเหลี่ยมมุม ซึ่ง G-Series ของเอปสันมีคุณสมบัติที่ครบครัน ทั้งในเรื่องความสว่าง ความคมชัด และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สามารถทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของออร์แกไนเซอร์เป็นจริงได้” นายยรรยง กล่าว

การเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม High Performance รุ่น G-Series ยังเป็นการยกระดับความพร้อมในการแข่งขันของ เอปสัน เพราะพอร์ตสินค้าในกลุ่มนี้ของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 18 รุ่น สำหรับ G-Series ทั้ง 7 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ มีระดับความละเอียดทั้ง XGA, WXGA และ WUXGA และระดับความสว่างตั้งแต่ 5,200 – 7,000 ลูเมนส์ ทั้งยัง สามารถรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ HDBase-T ได้ ประกอบด้วย EB-G6170, EB-G6870, EB-G6070W, EB-G6270W, EB-G6570WU, EB-G6770WU และ EB-G6970WU

นอกจากนี้ เอปสันยังออกสินค้าในกลุ่ม Smart เพิ่มอีก 10 รุ่น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดโปรเจ็คเตอร์ สำหรับเอสเอ็มอีและสถาบันศึกษา ได้แก่รุ่น EB-S04, EB-S29, EB-S31, EB-X04, EB-X31, EB-X36, EB-W04, EB-W31, EB-U04 และ EB-U32 โดยทุกรุ่นได้รับการอัพเกรดให้มีระดับความสว่างและความละเอียดสูงขึ้น และ สามารถแยกแสดงภาพได้ 2 จอในเวลาเดียวกัน ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ HDMI ได้ นอกจากนี้ ยังใช้ หลอดภาพรุ่นใหม่ที่ให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 10,000 ชั่วโมง

นายยรรยงกล่าวต่อว่า “ไฮไลท์อยู่ที่รุ่น EB-U04 และ EB-U32 ที่เป็นเครื่องความละเอียดสูงระดับ WUXGA รุ่นแรก ของสินค้ารุ่น Smart ที่เป็นเครื่องราคาประหยัด ซึ่งเดิมทีเป็นคุณสมบัติของเครื่องขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งยัง ใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่น iProjection ของเอปสัน และฟังก์ชั่น QR Code Reader ช่วยให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายทำได้ง่ายขึ้น โดยการอ่าน QR code ที่ฉายบนจอภาพด้วยสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ และสำหรับเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ก็สามารถเชื่อมต่อได้โดยใช้สายเคเบิ้ล MHL”

“โปรเจ็คเตอร์รุ่น Smart ทั้ง 10 รุ่นใหม่ของเอปสันนี้ยังได้ปฏิวัติมาตรฐานโปรเจ็คเตอร์รุ่นเล็กในตลาดทั้งหมด เพราะมีความสว่างและความละเอียดในการฉายภาพเพิ่มขึ้น ทั้งยังนำฟังก์ชั่นและคุณสมบัติพิเศษที่เคยมีแต่ใน เครื่องขนาดกลางขึ้นไปมาใช้ ทำให้ลูกค้าในกลุ่มโฮมออฟฟิศ โซโห และเอสเอ็มอี ได้ใช้สินค้าประสิทธิภาพสูงขึ้น ในราคาเท่าเดิม”

นายยรรยงกล่าวถึงแผนการขยายตลาดในกลุ่ม High Performance ว่า เอปสันวางยุทธศาสตร์ไว้ 4 ด้าน โดยบริษัทฯ จะป้อนสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า วันนี้เอปสันมีโปรเจ็คเตอร์       ในตลาดนี้ถึง 18 รุ่นแล้ว และยังมีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องที่มีความสว่างสูงขึ้นอีกในอนาคต พร้อมกับให้ความรู้และ แสดงศักยภาพเทคโนโลยีและคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของสินค้าให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในโปรเจ็คเตอร์ของ เอปสันในการใช้พัฒนางานที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น

“เอปสันได้พัฒนาทีมผู้เชี่ยวชาญขึ้นในหลายส่วน ทั้งส่วนการขาย การสนับสนุนด้านเทคนิค และการบริการ เพื่อ ศึกษาข้อมูลในด้านต่างๆ จนเข้าถึงความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และก้าวทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าจะสัมผัสได้ว่าเทคโนโลยีของเอปสันไม่เคยหยุดนิ่ง นอกจากนี้ เอปสันยังมีเครือข่ายตัวแทน จำหน่ายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีของเอปสันเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าเกี่ยวกับ โปรเจ็คเตอร์ได้ในทุกเรื่อง ไม่เพียงเท่านั้น เอปสันยังจับมือกับ บริษัทพัฒนาคอนเท้นท์ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าออร์แกไนเซอร์มากยิ่งขึ้น”

“ยุทธศาสตร์สุดท้ายคือการให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็น กุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิม ดึงดูดลูกค้าใหม่ และสร้างความเชื่อมั่น (Trust) ให้กับแบรนด์เอปสัน เพื่อคงความเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าเสมอ ตามพันธกิจในโอกาสครบรอบ 25 ปีเอปสันประเทศไทย นอกจากนั้น เอปสันยังได้เปิดศูนย์ให้บริการมากถึง 129 แห่ง เพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และสำหรับสินค้าในกลุ่ม High Performance เอปสันยังได้จัดบริการแบ็คอัพยูนิต โดยบริษัทฯ จะจัดหาเครื่องทดแทนที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเครื่องของลูกค้า พร้อมส่งให้ลูกค้าถึงมือเพื่อนำไปใช้ก่อน ระหว่างรอการซ่อมที่ใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมง”

“ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปีและตำแหน่งแบรนด์โปรเจ็คเตอร์ที่มียอดขายทั่วโลกสูงสุดติดต่อกัน 14 ปี เอปสัน ยืนยันว่าโปรเจ็คเตอร์ยังเป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็น และไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีอื่น ในหลายตลาด โปรเจ็คเตอร์กลับมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดจากธุรกิจออร์แกไนเซอร์ และธุรกิจพัฒนาคอนเท้นท์สำหรับ งานอีเว้นท์ รวมไปถึงงานโฆษณา ที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการเป็นอย่างมาก G-Series จึงจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากวงการงานสร้างสรรค์เหล่านี้ นอกจากนี้ เอปสันยังมองว่าเทรนด์ในการเลือก ใช้โปรเจ็คเตอร์จะเปลี่ยนไป ฟังก์ชั่นและคุณสมบัติพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเชื่อมต่อจะเป็นความต้องการ พื้นฐาน ลูกค้าจะมองหาสิ่งที่ช่วยยกระดับการนำเสนองานได้มากพอๆ กับความคุ้มค่าจากการลงทุน ซึ่งเอปสันเอง ก็พร้อมที่จะส่งสินค้าใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์นี้อยู่แล้ว” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย