เนื้อหาวันที่ : 2015-08-25 13:45:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2111 views

เฟรเกรนท์ ปลื้มหลังก.พลังงานยกให้ “เซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์” เป็น “คอนโดประหยัดพลังงาน” โครงการแรกของไทย

บมจ. เฟรเกรนท์ ชู “เซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์” เป็นแม่แบบในการพัฒนาโครงการในอนาคต หลังกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ยกให้เป็น “คอนโดประหยัดพลังงาน” อย่างแท้จริงเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วและสามารถสร้างยอดขายไปได้แล้วประมาณ 65% คาดปิดการขายได้ภายในไตรมาส 1/2559

นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เฟรเกรนท์ ยังเดินหน้าชูนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Eco-Innovative Living ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพมาใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตที่ดี สร้างสังคมที่มีคุณภาพ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมไทย ซึ่งการพัฒนาโครงการต่างๆ จะคำนึงถึงความสมดุลทั้งในด้านการออกแบบโครงการบนแนวคิดการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า “Eco-Innovative Living” ในทำเลที่เดินทางสะดวกสบายใจกลางเมือง และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยอย่างครบครันด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ และพื้นที่จอดรถที่มากเพียงพอกับผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการ โดยยึดองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ Wellness – การออกแบบและพัฒนาโครงการที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย Cost of Living – การนำเทคโนโลยีและคัดเลือกวัสดุคุณภาพมาเป็นองค์ประกอบในการพัฒนาโครงการ เพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ สะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ Efficiency – การนำนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานมาใช้ในโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวก ช่วยให้การใช้ชีวิตง่าย และประหยัดเวลามากขึ้น

 

ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียมเซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์ (Circle Living Prototype) คอนโดมิเนียมประหยัดพลังงานรายแรกของไทย ถูกพัฒนาขึ้นบนทำเลใจกลางเมือง อโศก-เพชรบุรี สะดวกในการเดินทางและรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยโครงการตั้งใจที่จะนำเสนอคุณค่าของงานดีไซน์สมัยใหม่ด้วยประสบการณ์จากสถาปนิกผู้ออกแบบงานด้านสถาปัตย์ร่วมกับบริษัทระดับโลก โดยออกแบบตึกให้มีความเป็นเอกลักษณ์แฝงด้วยความทันสมัยที่เรียบง่าย โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ประโยชน์ใช้สอยที่ครบครัน และมีจุดเด่นที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบบอย่างการอยู่อาศัย “Healthy-Eco-Innovative” อย่างแท้จริง โดย เซอร์เคิล ลิฟวิ่ง โปรโตไทป์ มีมูลค่าโครงการ 4,050 ล้านบาท สูง 52 ชั้น รวม 477 ยูนิต มีห้องให้เลือก 5 ประเภท ประกอบด้วย ห้องขนาด 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, เพนท์เฮาส์ และวิลล่า เสนอขายในราคาเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 150,000 บาท และเพื่อเป็นการฉลองการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% เฟรเกรนท์ จึงได้มอบโปรโมชั่นพิเศษ  “Exclusive Floor, Exclusive Privileges” เปิดขาย 12 ยูนิตพิเศษ ชั้น 31-40 Skyscraper View ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท พร้อมมอบเงื่อนไขพิเศษสูงสุดมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท* เฉพาะวันที่ 18-20 กันยายน นี้เท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-652-9999 หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่ www.fragrantgroup.com

ด้านแผนของ บมจ. เฟรเกรนท์ ต่อการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Eco Innovative Living ต่อเนื่องในอนาคตนั้น นายเจมส์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบนแนวคิด “Eco-Innovative Living” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็น “Leading Eco-Innovative Property Developer in Asia” ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ โดยในปีหน้า บริษัทฯ มีแผนเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ที่จะเป็น “State-of-the-art” บนหนึ่งในทำเลที่ดีสุดของทองหล่อ ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท

เกี่ยวกับมุมมองของ บมจ. เฟรเกรนท์ ต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในครึ่งปีหลัง 2558 นั้น นายเจมส์แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม Luxury และ Super-Luxury ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองและ CBD จะมีการขยับตัวของราคาที่สูงขึ้นเพราะยังมีการเติบโตของกำลังซื้ออย่างชัดเจน  ในขณะที่ปริมาณโครงการมีจำนวนจำกัด เนื่องจากการพัฒนาโครงการใหม่เกิดขึ้นยากเพราะราคาที่ดินที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการปรับสูงขึ้นตาม ทั้งนี้ โครงการที่อยู่ใกล้และเชื่อมต่อกับระบบ Transportation lines จะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่โดยรวมเชื่อว่านับจากนี้ค่ายอสังหาฯ จะต้องงัดกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างยอดขาย  ในด้านตลาดเช่าอัตราค่าเช่าของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ บางโซน จะมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อย จากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยโซนที่น่าจะเติบโตได้ดีจะเป็นแถบกลางเมือง และ Expat zone เช่น ย่านเพลินจิต นานา อโศก ทองหล่อ เป็นต้น สำหรับมุมมองเกี่ยวกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในไทยนั้นมองว่าจะเริ่มเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียม Luxury และ Super Luxury ในกรุงเทพฯ ซึ่งค่อนข้างเป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากจากปัจจัยบวกต่างๆ เช่น ราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ อัตราค่าเช่าที่ยังเติบโต และมีหลายโครงการที่เป็น Freehold รวมถึงเงื่อนไขอื่นๆ ที่น่าสนใจและน่าลงทุนมากกว่าเมื่อเทียบกับอสังหาฯ ระดับเดียวกันในเมืองใหญ่ๆ ในเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และบางเมืองในประเทศจีน”