เนื้อหาวันที่ : 2015-07-20 14:39:44 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 531 views

สศอ. เดินหน้า “เครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา” เน้นสร้างสรรค์งานวิจัยใช้ได้จริง ต่อยอดในเชิงพาณิชย์สำเร็จ

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดินหน้าสร้าง “เครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา” ปี 2558

ข่าวประชาสัมพันธ์ที่ 19 (40)2558

สศอ. เดินหน้า “เครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา”
เน้นสร้างสรรค์งานวิจัยใช้ได้จริง ต่อยอดในเชิงพาณิชย์สำเร็จ

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดินหน้าสร้าง “เครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา” ปี 2558 ได้ผลงานวิจัยนำร่องที่ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานวิจัย เพื่อสร้างสรรค์งานวิจัยที่ใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์แล้ว และจะพัฒนาไปสู่การสร้างเครือข่ายนำร่องอุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สศอ.
ได้ตระหนักว่าการวิจัยและพัฒนาเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้ง “เครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา” สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานวิจัย เพื่อสร้างสรรค์งานวิจัย
ที่สามารถนำไปใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2556 - 2557 ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา เครือข่ายฯ ได้สำรวจปัญหา และความต้องการในด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคอุตสาหกรรม ด้วยการประชุมระดมสมองในกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา เพื่อส่งต่อให้นักวิจัยพิจารณาดำเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับผู้ประกอบการ ขณะนี้มีผลงานวิจัยที่สำเร็จในระดับหนึ่งและเป็นงานวิจัยนำร่อง ได้แก่ การวิจัยและพัฒนายางล้อตัน การรักษาคุณภาพเนื้อไม้ยางพารา และการปรับปรุงคุณภาพยางล้อตันไร้รอยเปื้อน (Non – marking solid tire) ซึ่งผลงานการปรับปรุงคุณภาพยางล้อตันไร้รอยเปื้อน ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำฐานข้อมูลสนับสนุนการดำเนินงาน เช่น ฐานข้อมูลผลงานวิจัย ฐานข้อมูลนักวิจัยด้านยางและไม้ยางพารา รวมทั้งกิจกรรมพัฒนาความรู้ของสมาชิกเครือข่ายฯ ได้แก่ การจัดหลักสูตรฝึกอบรมและสัมมนาวิชาการ ที่ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ประกอบการได้ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของเครือข่ายฯ เป็นอย่างดี
แนวทางการดำเนินงานในปี 2558 โดยเครือข่ายฯ ยังคงมีการจัดกิจกรรมการฝึกอบรม การสัมมนาวิชาการ การพัฒนาเว็บไซต์ฐานข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยและนักวิจัย เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง สำหรับการดำเนินการเรื่องการวิจัยและพัฒนาในปีนี้ เครือข่ายฯ จะดำเนินการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจสอบความบกพร่องของเส้นด้ายยางยืดแบบอัตโนมัติ โดยได้จากการสำรวจความต้องการด้านการวิจัยและพัฒนาของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเส้นด้ายยางยืด ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก นอกจากนี้ เครือข่ายฯ ยังช่วยผู้ประกอบการพัฒนา

โจทย์วิจัยที่ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถนำไปสู่การผลิตในเชิง พาณิชย์ได้ซึ่งจะก่อให้เกิดการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวาง และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการริเริ่มการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับกิจกรรมที่ได้จัดเพิ่มเติมขึ้นและเป็นกิจกรรมที่เครือข่ายฯ ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญในการจัดตั้งเครือข่ายฯ คือ การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสมาชิกในเครือข่ายฯ โดยจัดกิจกรรมให้มีการพบปะระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา ด้วยการจัดประชุมกลุ่มย่อย เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการ หน่วยงานวิจัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวิจัยและพัฒนา ได้พบปะ หารือ และแลกเปลี่ยนแนวคิด ความรู้และประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สําคัญของการสร้างความร่วมมือกันทางด้านการวิจัยและพัฒนา โดยการประชุมกลุ่มย่อยที่เครือข่ายได้จัดไปแล้ว คือ เรื่อง การใช้ยางพาราในทางการทหาร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558
ซึ่งได้รับผลการตอบรับจากผู้ประกอบการ และหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เครือข่ายฯ ยังจัดตั้ง “คลินิกยาง” เพื่อใหบริการวิเคราะหปญหา และใหคําปรึกษาในการแกไขปญหา การลดตนทุนการผลิต ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑแกผูประกอบการและผู้ที่สนใจ ผ่านชองทางตางๆ เชน ทางโทรศัพท อีเมล เว็บไซตของเครือขายฯ และการเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษา
นายอุดม ผศอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดำเนินการดังกล่าวผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม เริ่มมีการตื่นตัวและให้ความสำคัญในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่มากขึ้น เริ่มเปิดเผยความต้องการในการวิจัยและพัฒนา และให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายฯ คือ สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันภายในเครือข่ายเพื่อสร้างสรรค์งานวิจัยที่เกิดประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรม โดยในปัจจุบันสมาชิกเครือข่ายฯ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา นักวิจัยด้านยางและไม้ยางพารา รวมทั้งนักศึกษา รวมทั้งสิ้น 246 คน และยังคงเปิดรับสมาชิกอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังนั้น สศอ. จึงริเริ่มที่จะพัฒนาไปสู่การสร้างเครือข่าย
นำร่องอุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อไป