เนื้อหาวันที่ : 2015-05-11 15:28:35 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 662 views

เปิดตัว Autodesk 2016 Design & Creation Suites

ใช้งานต่อเนื่องทั้งเดสก์ทอปและคลาวด์ รับได้ทุกอุตสาหกรรมทั้งงานออกแบบ วิศวกรรม หรือวิช่วลอาร์ติสท์ทั่วโลกต่างวางใจ

ออโตเดสก์ อิงค์ เปิดตัว Autodesk 2016 Design Suites รีลีสล่าสุดที่ให้ประสบการณ์ในการทำงานออกแบบที่รู้สึกได้ถึงพลังในการควบคุมการเชื่อมโยงไม่ว่าจะผ่านเดสก์ทอปรวมทั้งคลาวด์ในทุกแง่มุม โดยชุดซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบและสร้างสรรค์งานนี้จะมีทูลเซ็ตให้เลือกใช้มากขึ้น, สามารถทำงานระหว่างแพลตฟอร์ม โปรแกรมต่างได้ลื่นไหล และให้ประสบการณ์การทำงานด้วยผลงานที่เสถียรวางใจได้


“ลูกค้าของเรามีความต้องการรูปแบบการใช้งานที่ซับซ้อนขึ้นสะท้อนถึงวิธีการออกแบบและผลิตโปรดักส์, วิธีการก่อสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้าง และวิธีการรังสรรค์ชิ้นงานเพื่อความบันเทิงต่างๆ” อะมาร์ ฮานสปาล รองประธานอาวุโส ออโตเดสก์ กล่าว “ออโตเดสก์สวีต (Autodesk Suites) นำเสนอเวิร์คโฟลได้ครบถ้วน: ตั้งแต่การจับภาพตามจริง และทำซ้ำขึ้นมาในชิ้นงานออกแบบ ไปจะกระทั่งพิมพ์งานชิ้นนั้นในแบบ 3มิติโดยใช้การพิมพ์ 3มิติ หรือวิธีการอื่น”


ในแต่ละสวีตจะประกอบด้วย AutoCAD 2016, ReCap และ 3ds Max ซึ่ง AutoCAD 2016 นี้ถือว่าเป็น AutoCAD ที่ก้าวหน้าที่สุด ทำงานได้ละเอียด แม่นยำ รวดเร็ว รวมไปถึงทำเอกสารอ้างอิงด้วยรายละเอียดครบถ้วนถูกต้อง เทคโนโลยี ReCap จากออโตเดสก์นี้จะมีอยู่ในทุกสวีต เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำ Reality Computing ให้เหนือชั้นด้านการเข้าถึงข้อมูลและการใช้งานประสานกันได้ระหว่างสวีตต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีเลเซอร์สแกนฟอร์แมต, ทูลในการวัด, การทำบรรณิทัศน์ขั้นแอดว้านซ์ และการซิงค์ประสานข้อมูล และอีกหลายฟังก์ชั่นด้วยกัน ส่วน Autodesk 3ds Max นั้น ลูกค้าจะได้ใช้ทูลในแบบ 3มิติตามที่จำเป็นในการรังสรรค์ชิ้นงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจไม่ว่าจะใช้ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม


ทูลสุดล้ำรับมือความท้าทาย เจาะแง่มุมเฉพาะอุตสาหกรรม ลูกค้าในกลุ่ม สถาปัตยกรรม, วิศวกรรมและงานก่อสร้าง (AEC) และทรัพยากรธรรมชาติ & โครงสร้างจะได้รับประโยชน์จากฟังก์ชั่นที่ปรับเพิ่มเติมของซอฟท์แวร์นี้ มีบริการผ่านคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพ และมีการสมัครใช้แบบเป็นสมาชิกที่ยืดหยุ่นด้วยออพชั่นต่างๆ และยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้:

  • Building Design Suite ศักยภาพของซอฟท์แวร์ได้รับการปรับปรุง และยังสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มหรือจำพวกซอฟท์แวร์ในการทำวิช่วลไลเซชั่น, ตรวจหาร่องรอยการ clash และลงรายละเอียด
  • Infrastructure Design Suite มีการเชื่อมโยงเวิร์คโฟลระหว่างวิศวกรรมเบื้องต้นกับรายละเอียดงานออกแบบในเฟสต่อมา, สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ดีขึ้น, ทูลสำหรับการจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และพัฒนายูสเซอร์อินเตอร์เฟซให้สามารถใช้งานซอฟท์แวร์ได้ดียิ่งขึ้น
  • Plant Design Suite มีการพัฒนาปรับปรุงต่อยอด AutoCAD Plant 3D รวมทั้งผนวกเข้ากับ Autodesk Vault และการแนบโมเดลของ Navisworks เพื่อใช้สำหรับการอ้างอิงช่วงการสร้างโมเดลได้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม และยังรวมถึง AutoCAD MEP เพื่อใช้ทำโมเดลแบบจำลองของช่องเดินท่อและท่อร้อยสายไฟต่างๆ อีกด้วย


ส่วนซอฟท์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตมีเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อออกแบบ, งานวิศวกรรมและผลิตโปรดักส์ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ สำหรับ ทำโมเดล, ทดลองเสมือนจริง จนถึงกระบวนการผลิตออกมาเป็นตัวสินค้า บริษัทเปิดตัว Autodesk AnyCAD ที่สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มสำหรับการออกแบบร่วมกับไฟล์จากเธิร์ดปาร์ตี้ และ Autodesk 3D Print Studio ที่อยู่บนแพลตฟอร์มการพิมพ์ 3มิติแบบเปิด Spark ซึ่งมีการผลิตทีละชั้น จนสำเร็จเป็นชิ้นงาน (additive fabrication) เข้าในเวิร์คโฟลของสวีต

  • Product Design Suite: นอกจากมี AnyCAD และ 3D Print Studio สวีต 2016 ได้พัฒนาปรับปรุงในส่วนวิช่วลไลเซชั่น, ออกแบบอิเล็กทรอเมคานิก, บริหารข้อมูล, ทดลองเสมือนจริงในระดับแอดว้านซ์ และสมัครสมาชิกรับบริการ Autodesk Fusion 360 ผ่านคลาวด์
  • Factory Design Suite: มีการพัฒนาในหลายส่วนเพื่อแปลงส่วนต่างๆ ของ CAD จาก 2มิติให้มาเป็น 3มิติให้มีความแม่นยำถูกต้องและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และลูกค้าที่เป็นโรงงานจะประทับใจกับเวิร์คโฟลในการสร้างภาพเชิง 3มิติ point cloud data จากเลเซอร์สแกน


อาร์ติสท์ดิจิตอล, ผู้ผลิตภาพยนตร์ และเกมเมอร์ทั้งหลายจะประทับใจกับออโตเดสก์ทูลที่มาช่วยรองรับกระบวนการทำงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่วมงานกับหลายทีมงานจากหลายส่วนงานที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ

  • Entertainment Creation Suite: การพัฒนาหลักเน้นที่ประสิทธิภาพของอะนิเมชั่น, การใช้งานง่าย, การสร้างคอนเท้นท์, การทำงานร่วมกันหลายทีม และเวิร์คโฟลที่เชื่อมโยงกันได้ดีและใช้ง่าย


ผลประโยชน์แก่ลูกค้าแบบสมาชิกของ 2016 ออโตเดสก์พัฒนานวัตกรรมและปรับปรุงสวีตและโปรดักส์แบบ Desktop Subscription อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับบริการ Autodesk 360 ผ่านคลาวด์ได้ ลูกค้าที่เป็นสมาชิกใช้งานจะเข้าถึงบริการสนับสนุนต่างๆ ผ่านทางคลาวด์ได้ อาทิ สามารถเข้าถึงทูลที่ทำ render และวิช่วลไลเซชั่นได้รวดเร็วขึ้น ทำการทดลองโปรดักส์เสมือนจริง วิเคราะห์ และทูลเพื่อการประสานงาน ลูกค้ายังจะได้รับประโยชน์จาก Autodesk Account ใหม่ซึ่งเป็นพอร์ทัลที่สามารถปรับแต่งตามแบบตัวบุคคลและใช้งานง่าย ซึ่งช่วยให้ติดตาม บริหารการใช้โปรดักส์และบริการ หรือสิทธิประโยชน์ของออโตเดสก์ได้จากที่เดียว ติดตั้งง่าย บริหารและอัพเกรดซฮฟท์แวร์สะดวก เงื่อนไขในการชำระเงินยืดหยุ่น และมีสิทธิ์ในการใช้งานบนดิไวซ์นานาประเภทมากกว่า


การวางจำหน่าย Autodesk 2016 Design Suites เริ่มวางตลาดเมื่อเดือนเมษายน 2558 ตามประเทศต่างๆ กันไป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางจำหน่ายและหาซื้อได้ที่ http://www.autodesk.com/subscription.