เซ็น MOA กับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อสำรวจและพัฒนาแหล่งถ่านหินโครงการ 2 ต่อเนื่อง หลังโครงการแรกได้พัฒนาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้เรียบร้อยแล้ว
TNDT เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานในพม่าเพิ่ม ล่าสุด เซ็น MOA กับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อสำรวจและพัฒนาแหล่งถ่านหินโครงการ 2 ต่อเนื่อง หลังโครงการแรกได้พัฒนาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้เรียบร้อยแล้ว “ชมเดือน ศตวุฒิ” กรรมการผู้จัดการ TNDT คาดว่าจะเริ่มทำการสำรวจได้ภายใน 3 เดือน หวังเป็นแหล่งเชื้อเพลิงถ่านหินแหล่ง ที่สองเพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าในพม่าในอนาคต
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้นำในธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจพลังงานในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Agreement) กับ พันธมิตรบริษัท สวยแม่ละ จำกัด (KNU KNLA/PC) เพื่อพัฒนาแหล่งถ่านหินทิวาเกะ ณ เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง แห่งสหภาพเมียนมาร์ บนเนื้อที่ประมาณ 180 ตารางกิโลเมตร หรือ 18,000 เอเคอร์ ซึ่งถือเป็นแหล่งถ่านหินโครงการ ที่สองที่บริษัทฯ ได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจและพัฒนา หลังจากโครงการแรกซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รัฐฉาน สหภาพเมียนมาร์ และได้พัฒนาจนสามารถเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ เมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมา
การเซ็น MOA โครงการใหม่นี้ถือเป็นก้าวที่สองของ TNDT สำหรับการพัฒนาธุรกิจเหมืองถ่านหิน ในเมียนมาร์ โดยพันธมิตรบริษัท สวยแม่ละ จำกัด จะเป็นผู้ยื่นขอใบอนุญาตสำรวจ หรือยื่นเอกสารที่แสดงกรรมสิทธิ์ของแหล่งแร่ถ่านหินทิวาเกะ เมืองเมียวดีจากรัฐบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นผู้ให้การสนับสนุนและคุ้มครองความปลอดภัยในการดำเนินการต่างๆ ทั้งหมดอย่างสูงสุด ส่วน TNDT จะเป็นผู้ลงทุนสำรวจ ซึ่งคาดว่า จะเริ่มทำการสำรวจได้ภายใน 3 เดือน และหากพบว่ามีแร่มากพอสำหรับการผลิตในเชิงธุรกิจ ทางพันธมิตร บริษัท สวยแม่ละ จำกัด และ TNDT จะร่วมกันผลิตในเชิงพาณิชย์และโครงการอื่นที่เกี่ยวโยงต่อไปแต่เพียงผู้เดียว” นางสาวชมเดือน กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TNDT กล่าวอีกว่าแหล่งถ่านหินโครงการที่ 2 นี้นอกจากจะมีเป้าหมายเพื่อดำเนินการผลิต ในเชิงพาณิชย์แล้ว ยังถือเป็นแหล่งเชื้อเพลิงวัตถุดิบสำรองสำหรับใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินของบริษัทฯ ได้อีกด้วย เนื่องจากผู้ที่จะตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในสหภาพเมียนมาร์ได้จะต้องมีแหล่งวัตถุดิบเชื้อเพลิงที่ชัดเจน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในสหภาพเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี