เทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นตัวปรับสมดุลที่ดีเยี่ยมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อม
เฟดเอ็กซ์จัดสัมมนาโต๊ะกลมในหัวข้อ “การจัดทำสารสนเทศ (Information Generation)” โดยมีผู้บริหารจากเฟดเอ็กซ์ ราช ซูบรามาเนียม และไมเคิล ฟอสเตอร์ ร่วมวงสนทนากับ ราล์ฟ เดรสชไมเออร์ ผู้บริหารจาก The Boston Consulting Group ในประเด็นที่กล่าวถึงผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของไอทีต่อการค้าทั่วโลก
หัวข้อในการอภิปรายมุ่งประเด็นไปที่ธุรกิจขนาดเล็กและบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อเอาชนะความท้าทายและนำพาธุรกิจของพวกเขาออกสู่ตลาดโลกอย่างประสบความสำเร็จ
“เทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นตัวปรับสมดุลที่ดีเยี่ยมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อม” นายฟอสเตอร์ กล่าวและว่า “ธุรกิจขนาดเล็กในปัจจุบันสามารถจัดการเอกสารที่ซับซ้อนตามความต้องการของศุลกากรและจัดการสินค้าคงคลังทั่วโลกได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศได้ขยายโอกาสทางธุรกิจอย่างมากมายซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถหาตลาดใหม่ๆ และแข่งขันได้ในระดับโลก”
ไมเคิลฟอสเตอร์ได้แนะ 5 เคล็ดลับไอทีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการจะโกอินเตอร์ ไว้ดังนี้
1. ระบบอัตโนมัติเพื่อเร่งความเร็วจงใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการจัดส่งสินค้าให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดส่งข้ามพรมแดนเพื่อให้คุณมั่นใจว่าจ่าหน้าที่อยู่ได้ถูกต้องและมีเอกสารศุลกากรเรียบร้อยทุกอย่างเพื่อการตรวจผ่านทางศุลกากรเป็นไปโดยง่าย
2. เคลียร์กับศุลกากร–จัดการเอกสารที่ยุ่งยากตามที่ศุลกากรต้องการให้ได้โดยเร็วด้วยการใช้เครื่องมืออัตโนมัติต่างๆ เช่น FedEx Ship Manager ซึ่งมีเครื่องมือที่ช่วยให้แน่ใจว่าเอกสารทางศุลกากรได้ถูกส่งตรงไปยังเฟดเอ็กซ์เพื่อกระบวนการทำงานที่รวดเร็ว
3. สินค้าคงคลังน้อย จัดส่งรวดเร็ว–บูรณาการกระบวนการจัดส่งสินค้าของคุณเข้ากับระบบอัตโนมัติของเฟดเอ็กซ์และเครือข่ายการขนส่งทั่วโลกเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนย้ายสินค้าคงคลังของคุณ จากนั้นคุณสามารถใช้บริการ FedEx Desktop ในการติดตามตรวจสอบการจัดส่งตลอดวงจรชีวิตได้
4. ลุยตลาดท้องถิ่น ต้องใช้โทรศัพท์มือถือ–สร้างการเติบโตโดยอาศัยประโยชน์จากการเชื่อมต่อของโทรศัพท์มือถือและใช้การพาณิชย์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (M-Commerce)เพื่อเปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนมือถือที่มีการตั้งค่าให้ตอบสนองความคาดหวังของตลาดในท้องถิ่น ในขณะที่ขยายธุรกิจของคุณไปข้ามพรมแดนด้วย
5.ใช้ข้อมูลอัจฉริยะแทนที่ข้อมูลขนาดใหญ่–เก็บรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อจัดการและตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่อย่าทำแค่เก็บข้อมูลเฉยๆ จงทำความเข้าใจกับข้อมูลเหล่านั้นและใช้มันเพื่อชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์สำคัญต่อพันธมิตรธุรกิจและลูกค้าของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด