TNDT เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานในพม่าเต็มสูบ หลังเซ็น MOU กับรัฐบาลรัฐฉานไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ คาดเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 20 เมกะวัตต์ ได้ภายในปลายปีนี้
TNDT เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานในพม่าเต็มสูบ หลังเซ็น MOU กับรัฐบาลรัฐฉานไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “ชมเดือน ศตวุฒิ” กรรมการผู้จัดการ คาดเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 20 เมกะวัตต์ ได้ภายในปลายปีนี้ ขณะที่ธุรกิจหลักในประเทศยืนยันยังมีทิศทางเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปี ทำกำไรพุ่งกว่า 56% ด้านที่ประชุมบอร์ดอนุมัติปันผลประจำครึ่งแรกปี 2557 คืนกำไรผู้ถือหุ้นทันที อัตรา 0.10 บาท/หุ้น
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้นำในธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจพลังงานในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่า บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 20 เมกะวัตต์ กับรัฐบาลรัฐฉาน แห่งสหภาพเมียนมาร์ เรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรอลงนามในบันทึกข้อตกลง(Memorandum of Agreement) ซึ่งคาดว่าขั้นตอนต่างๆ จะเสร็จสิ้นลงในเร็วๆ นี้ และสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ในปลายปีนี้
ในโครงการโรงไฟฟ้าเราได้ผ่านขั้นตอนการเซ็น MOU ไปแล้วเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน การรอเซ็น MOA ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และจะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ภายในปลายปีนี้ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่คาดไว้ และช่วงที่ รอความพร้อมทางด้านการลงนามในเอกสาร ทางบริษัทฯ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญก็เริ่มเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ทีมงาน และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้สามารถเริ่มงานได้ทันทีเมื่อขั้นตอนด้านเอกสารครบถ้วน ซึ่งขณะนี้งานในพม่าถือว่าคืบหน้าไปมาก” นางสาวชมเดือนกล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้น TNDT มีนโยบายขยายฐานธุรกิจในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ใน 3 โครงการ คือ โครงการเหมืองถ่านหิน โครงการเหมืองหิน และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 20 เมกะวัตต์ บริเวณท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์ ซึ่งทั้ง 3 โครงการ มีความคืบหน้าไปมาก โดยโครงการเหมืองหินและเหมืองถ่านหินเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปี 2556 ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ในช่วงปลายปี 2558
ด้านธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลายซึ่งเป็นธุรกิจหลักในประเทศ กรรมการผู้จัดการ TNDT กล่าวว่า ยังคงมีทิศทางเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็น ต่อทุกอุตสาหกรรม ประกอบกับที่ผ่านมา TNDT ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี จึงทำให้งานในกลุ่มนี้สามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งดังกล่าว โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการในงวดครึ่งแรกของ ปี 2557 ที่ TNDT สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยกำไรสุทธิเติบโตมากกกว่าร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ TNDT แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2557 (เมษายน - มิถุนายน)ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 84.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 20.05 ล้านบาท ในขณะที่งวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 221.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 159.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 50.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.60
จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 32.01 ล้านบาท "การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้และกำไรพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง เนื่องจากธุรกิจตรวจสอบความปลอดภัยด้านวิศวกรรมมีความจำเป็นต่อทุกอุตสาหกรรม ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทฯ มีความพร้อมรองรับการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจเป็นอย่างดีทั้งด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีและเม็ดเงินการลงทุน จึงส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว" นางสาวชมเดือนกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการที่เติบโตในอัตราที่ดีดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2557 จากผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ซึ่งเป็นกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในอัตรา 0.10 บาท / หุ้น คืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา