SSI SCHAEFER ส่งระบบการจัดเก็บคลังสินค้า SOS System รองรับความต้องการลูกค้าเพิ่ม ด้วยเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ และลดอุบัติเหตุจากการทำงาน
บริษัท เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ซิสเต็มส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SSI SCHAEFER) ผู้นำตลาดด้านระบบคลังสินค้าและสายพาน และผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผน ออกแบบ และการติดตั้ง ในสายงานที่เกี่ยวกับ การจัดระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Intralogistics) ล้อนซ์โปรดักส์ใหม่ ระบบการจัดเก็บคลังสินค้าแบบ “SOS System” (เอสโอเอส ซิสเต็มส์) เพื่อรองรับความต้องของลูกค้าในตลาดอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ลดต้นทุนธุรกิจของลูกค้า ประหยัดพื้นที่ได้ถึง 50% และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดอุบัติเหตุจากการทำงาน
นายสราวุธ เล้าประเสริฐ ผู้จัดการประจำประเทศไทย (Country Manager) บริษัท เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ซิสเต็มส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) หมายรวมถึงการจัดการในการรับ การจัดเก็บ การหยิบสินค้า การควบคุมคุณภาพของการเก็บสินค้า การจัดส่งให้ผู้รับหรือศูนย์กระจายสินค้า เป้าหมายหลักในการบริหารคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นระบบให้คุ้มกับการลงทุน รวมถึงการป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงาน เพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุดและเกิดประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่สูงสุด อาทิเช่น การจัดเก็บแบบ Batch Lot สำหรับ สินค้าพร้อมขาย (Finished Goods) ที่มีBatch ในการผลิต, การจัดเก็บ Raw Materials (เป็นกระสอบหรือ Bags), แพคเกจจิ้ง (Packaging) ที่ต้องควบคุมสินค้าตัวใดที่เข้าคลังสินค้าก่อนแล้วต้องหมุนเวียนออกไปก่อน เพื่อลดความเสื่อมจากการจัดเก็บเป็นเวลานานหรือที่เรียกกันว่าการควบคุม FIFO (First In First Out) ควรจะใช้ระบบการจัดเก็บแบบ Multiple Deeps Storage ซึ่งเหมาะสมกับสินค้าที่มีชนิดเดียวและจำนวนมาก เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและห้องเย็น ที่ต้องใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยังการเข้าถึงสินค้าได้อย่างมีประสิทธิผล
และเพื่อรองรับความต้องของลูกค้าในตลาดอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ทาง เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ล้อนซ์โปรดักส์ใหม่ ‘SOS System’ เอสโอเอส ซิสเต็มส์ (Schaefer Orbiter System) เป็นระบบการจัดเก็บคลังสินค้าที่มีเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง เพื่อลดต้นทุนธุรกิจให้กับลูกค้า ซึ่งประหยัดพื้นที่ได้ถึง 50% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดอุบัติเหตุจากการทำงาน สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดจากพื้นที่ในคลังสินค้า (Floor Utilization) บาลานซ์อัตราการเบิกจ่าย (Throughput, Storage & Retrieval) รวมถึงนำไปใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการคิดต้นทุน และงานด้านบัญชีการเก็บสินค้า เพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำ โดยเหมาะสำหรับสินค้าที่มี ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด (มี SKUs หลากหลาย) เช่น อาหารกระป๋อง, น้ำมัน, ข้าวสาร, ซอส ฯลฯ ที่ต้องจัดเก็บในพื้นที่เดียวกัน และมี Batch Lot (จำนวนมาก) ประมาณ 20-30 Pallets และสินค้าอยู่ในคลังประมาณ 3-7 วัน โดย เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ จะออกแบบระบบและจำนวน Cart ให้เหมาะสมกับอัตราการทำงานของรถยก (Forklift Truck) เพื่อนำสินค้าออกได้อย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การลงทุนที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีจุดคุ้มทุนเริ่มต้น 4 ปี ธุรกิจเล็กๆ, ธุรกิจ SME หรือธุรกิจที่ลูกค้าต้องการจัดเก็บสินค้าให้เป็นระบบ สามารถใช้งบประมาณที่ไม่เยอะครับ” นายสราวุธ กล่าว