เนื้อหาวันที่ : 2014-06-13 10:42:00 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1601 views

ฟอร์ด ประเทศไทย ดันยอดขายที่แข็งแกร่งของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต

ฟอร์ด ประเทศไทย เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในเดือนพฤษภาคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต

ฟอร์ด ประเทศไทยรายงานยอดขายเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 3,378 คัน จากความต้องการอย่างต่อเนื่องในรถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ รถเอสยูวี สำหรับคนเมือง ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวม ฟอร์ดยังคงเดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในเดือนพฤษภาคมที่ 4.9 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 1.7 เปอร์เซ็นต์ เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนพฤษภาคมยังคงมีการแข่งขันอย่างสูง แต่เรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การพลิกโฉมตลาดในประเทศไทยด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ แบรนด์ของฟอร์ดเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

รถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งรุ่นเกียร์อัตโนมัติและรุ่นเกียร์ธรรมดา ทำให้ยอดขายรวมของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 1,939 คัน ทั้งนี้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเป็นรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของฟอร์ด ด้วยยอดขายตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 10,380 คัน

ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่ รถเอสยูวี สำหรับคนเมือง สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 719 คันในเดือนพฤษภาคม เนื่องมาจากความต้องการที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคที่ต้องการรถยกสูงที่มอบทัศนวิสัยการขับขี่ที่มองได้ไกลขึ้น สมรรถนะที่แข็งแกร่ง ให้การประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม รวมถึงความคล่องตัวในการขับขี่และติดตั้งเทคโนโลยีอัจริยะ
สำหรับรถฟอร์ด เฟียสต้า ที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค รวมถึง ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ เครื่องยนต์ EcoBoost เทอร์โบ และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มียอดขายที่โตขึ้นเล็กน้อยจากเดือนเมษายน อยู่ที่ 516 คัน

เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 1.0 ลิตรในเฟียสต้า EcoBoost เทอร์โบ มอบความแรงและสมรรถนะเทียบได้กับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปขนาด 1.6 ลิตร พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมและลดการปล่อยไอเสีย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟอร์ดได้จัดการจัดการแข่งขันทดสอบสมรรถนะและความประหยัดกับผู้บริโภค เพื่อพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านการประหยัดน้ำมันของขุมพลังเครื่องยนต์ EcoBoost เทอร์โบกับผู้บริโภคเกือบ 100 คน โดยผู้บริโภคสามารถทำอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดได้ที่ 20.37 กิโลเมตรต่อลิตร

เราจัดการแข่งขันทดสอบประหยัดน้ำมันขึ้นโดยซึ่งเปิดให้ผู้บริโภคได้เข้าร่วม เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับสมรรถนะอันเป็นเลิศของเครื่องยนต์ EcoBoost ภายใต้กติกาการขับขี่ที่ใกล้เคียงกับการขับขี่จริงในชีวิตประจำวัน ในรูปแบบที่ผู้บริโภคขับอยู่ทุกวัน” นางสาวยุคนธร สรุป