นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณบวก 2-3 ปัจจัย โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนประเภทเครื่องจักรที่ลดลงตั้งแต่ช่วง 4 เดือนแรกของปี ได้เริ่มกลับมาเป็นบวกช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเริ่มเห็นการส่งผ่านนโยบายมายังตลาดมากขึ้น เช่นธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ลงต่ำกว่า 7%

"ตัวเลขการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบทุนเริ่มเป็นบวก แต่การบริโภคไม่เร่งตัว ปัญหาอาจเกิดจากผลิตสินค้าไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ และเหลือแค่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดเท่านั้น เพราะโดยส่วนตัวยืนยันว่าขณะนี้รายได้หรืออำนาจซื้อของประชาชนยังมีอยู่ แต่ความต้องการซื้อไม่ปรับตัวขึ้น จึงต้องพิจารณาว่าปัญหาเกิดจากภาคการผลิตหรือกำลังซื้อ" นายอำพน กล่าว

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า วันที่ 29 มิ.ย. จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการปรับตัวธุรกิจรายสาขาที่จะมีการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้เพิ่มขึ้นซึ่งจะประกอบด้วยสาขา ก่อสร้าง สินค้าคงทน สิ่งทอ ยาและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งพบว่าหลายสินค้าของไทยเริ่มมีความสามารถทางการแข่งขันลดลงโดยเฉพาะสิ่งทอที่ล่าสุดพบยอดการส่งออกลดลงค่อนข้างมาก

"โครงสร้างอุตสาหกรรมเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลจึงเน้นเรื่องนี้เป็นลำดับแรกๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและการแข่งขัน เพราะอุตสาหกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมจะต้องใช้เวลาแต่จะต้องทำเพราะมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน" นายโฆสิตกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้รายงานดัชนีอุตสาหกรรมช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.50) พบว่าดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) 5 เดือนแรก อยู่ที่ 164.68 หรือขยายตัว 5.06% ลดลง เมื่อเทียบกับจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่โต 7.86% ส่วนหนึ่งเกิดจากบางอุตสาหกรรมมีการชะลอตัวลงได้แก่ สิ่งทอ โทรทัศน์ ปูนซีเมนต์ เซรามิก ฯลฯ เพราะการบริโภคในประเทศลดลง ประกอบกับความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยเทียบคู่แข่งลดลง เช่น จีน เวียดนาม

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังภาพรวมจะฟื้นตัวขึ้นเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านของรัฐจะเริ่มเห็นผลทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน การเพิ่มเงินเดือนราชการ การก่อสร้างรถไฟฟ้า โรงงานปิโตรเคีเฟส 3 ของบมจ.ปตท. รวมไปถึงการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากลหรืออีโคคาร์ ที่มั่นใจว่าจะมีผู้ยื่นเสนอลงทุนแน่นอนและรัฐยืนยันที่จะไม่ปรับเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนที่ผ่านคณะรัฐมนตรีไปแล้วแต่รายละเอียดที่นอกเหนือจากนี้สามารถหารือกันได้

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า ยอมรับว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอส่งออก 5 เดือนแรกของปีนี้มียอดส่งออกที่ 2,743.30 ล้านเหรียญสหรัฐหรือเพิ่มขึ้น 2.06% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวถึง 5.32% และหากคิดเป็นเงินบาทจะเป็นการติดลบ ดังนั้น สศอ.จะต้องหารือกับเอกชนเพื่อวางยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันใหม่  

ที่มา : ข่าวสด