เนื้อหาวันที่ : 2014-01-09 10:18:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1390 views

แสนสิริ วางเป้ารายได้ 34,000 ล้านบาท เติบโตอย่างมั่นคง

แสนสิริ เผยแผนธุรกิจปี 2557 วางเป้ารายได้ 34,000 ล้านบาท เติบโตอย่างมั่นคงจาก Presale Backlog สูงเกือบ 63,000 ลบ.

แสนสิริเผยแผนธุรกิจปี 2557 วางเป้ารายได้ 34,000 ล้านบาทและเป้าหมายยอดขาย 30,000 ล้านบาท จากการเปิดตัว 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 33,263 ล้านบาท เน้นศักยภาพการเติบโตของบริษัทอย่างมั่นคงภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจ – การปรับตัวเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและองค์กรในระยะยาว ด้วยฐาน Presale Backlog ที่สูงเกือบ 63,000 ล้านบาทรองรับการรับรู้รายได้ไปถึงอีก 4 ปีข้างหน้า

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทนับว่าประสบความสำเร็จเกินจากแผนการดำเนินงานที่ตั้งไว้ จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ตั้งเป้าไว้ 45 โครงการ ขณะที่สามารถเปิดไปได้ถึง 48 โครงการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในทุกประเภทที่อยู่อาศัยและครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ และช็อปเฮาส์ เป็นต้น คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 61,200 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 42,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งจนส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับและไว้วางใจในแบรนด์ “แสนสิริ” รวมทั้งแบรนด์ที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความสำเร็จ จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่วางไว้อย่างชัดเจนและแข็งแกร่งภายใต้ 6 กุญแจสำคัญในปีที่ผ่านมา

ขณะที่บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่า อสังหาริมทรัพย์และบริหารงานขายโครงการ รวมถึงบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่พักอาศัยและบริหารจัดการทรัพยากรอาคาร ซึ่งได้รับการยอมรับและเชื่อถือด้านการให้บริการและให้คำปรีกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรทั้งจากภาครัฐและเอกชนมากว่า 18 ปี ก็มีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจอย่างมาก โดยปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ได้รับความไว้วางใจในการให้บริการทางด้านอสังหาริมทรัพย์มาแล้วเป็นจำนวนกว่า 151 โครงการ รวมพื้นที่กว่า 6.1 ล้านตารางเมตร ในฐานะบริษัทที่มีศักยภาพจากประสบการณ์อันยาวนาน และความสามารถที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเช่นเดียวกัน

สำหรับปี 2557 บริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการรุกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบรับทุกความต้องการที่อยู่อาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า รวมทั้งขยายการพัฒนาโครงการสำหรับรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างจังหวัด รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นมากขึ้นอีก โดยบริษัทจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อีกประมาณ 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 33,263 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าการพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและต่างจังหวัดในสัดส่วน 89% : 11% และและแบ่งประเภทการพัฒนาโครงการเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม 9 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการและโครงการทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายรวมสำหรับปี 2557 ไว้ประมาณ 30,000 ล้านบาท รวมทั้งประมาณการณ์เป้าหมายรายได้ไว้ที่ 34,000 ล้านบาท

จากความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในการเดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาดของคู่แข่งรายใหญ่ในหลายๆ เซกเมนต์เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ในปีนี้บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการปรับตัวเพื่อต่อยอดความสำเร็จและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและองค์กรในระยะยาว หลังจากที่บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา” นายเศรษฐา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนด Key Strategies หรือวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่จะผลักดันสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ประกอบด้วย

1. การรักษาระดับยอดขายในตลาดต่างจังหวัด ด้วยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลที่แสนสิริได้ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว ทั้งใน ภูเก็ต, เชียงใหม่, เขาใหญ่, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี เพิ่มเติมจากโครงการบ้านเดี่ยวซึ่งยังเปิดการขายในต่างจังหวัดซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ได้แก่ โครงการบุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต และเศรษฐสิริ สันทราย เชียงใหม่ รวมทั้งการรุกตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดเดิมและการศึกษาโอกาสในการดำเนินธุรกิจในตลาดใหม่ในอีก 9 ทำเลได้แก่ พิษณุโลก, นครสวรรค์, นครศรีธรรมราช, อุบลราชธานี สมุย, หนองคาย, สุรินทร์, กาญจนบุรี และศรีราชา เป็นต้น

2. การควบคุมระยะเวลาการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมหลังจากผ่านการประเมินผลสิ่งแวดล้อม (EIA) เท่านั้น

3. การสร้างไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแก่ครอบครัวแสนสิริ ด้วยการเปิดตัว “Neighborhood Mall” สุขุมวิท77 และ “Sansiri Hotel Collection” ภายใต้แบรนด์ ‘Escape’ ในเมืองตากอากาศ เพื่อเติมเต็มความสะดวกในการใช้ชีวิตแก่ครอบครัวแสนสิริที่ซื้อคอนโดหรือบ้านพักตากอากาศ ได้แก่
 -เอสเคป หัวหิน เปิดให้บริการในเดือน พฤศจิกายน 2556
-เอสเคป เขาใหญ่ จะเปิดให้บริการในเดือน กุมภาพันธ์ 2557

4. การรับมือกับปัญหาขาดแคลนแรงงานด้วยการผลิตพรีคาสท์ในโรงงานทั้งสองเฟสอย่างเต็มกำลังการผลิต รวมทั้งมีนวัตกรรมด้านดีไซน์และวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ ที่เพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5. การสร้างนวัตกรรมด้านดีไซน์และรูปแบบของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบใหม่ๆ เพื่อนำเสนอแนวคิดด้านการอยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นที่มีการออกแบบที่โดดเด่นด้วย ‘L-Shape’ และแนวคิดการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ ‘HAUS’

6. การกำหนดนโยบายให้บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรให้แก่ลูกค้าแสนสิริและลูกค้าภายนอกอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้าง brand loyalty และเพิ่มรายได้แก่แสนสิริอย่างยั่งยืน และการชูบริการ ‘Rental for the Holidays’ ที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้บริหาร ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างจุดเด่นแก่แสนสิริและดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
30 ปีแสนสิริ “30 Years of Constructing Life, Not Just Buildings”

นอกจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ได้วางไว้อย่างแข็งแกร่งแล้ว ในปีนี้ยังนับเป็นปีที่แสนสิริครบรอบการก่อตั้งบริษัทมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีที่ไม่ใช่เพียงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่นำเสนอที่อยู่อาศัยแก่ผู้บริโภค แต่ยังเป็น Lifestyle Company ที่ส่งมอบไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตอันตอบสนองทุกความต้องการให้ลูกค้า โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญที่สร้างให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีศักยภาพต่อเนื่องตลอดมา อันได้แก่การเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า รวมทั้งมีความพร้อมและความยืดหยุ่นในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จแบบยั่งยืนได้ในระยะยาว” นายเศรษฐา กล่าว