ระดับไฮเอนด์รูปแบบมิกซ์ยูส ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งรวมที่พักอาศัยแบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โรงแรมบางกอก เอดิชั่นและ ไลฟ์สไตล์รีเทลเซ็นเตอร์
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯว่า ในส่วนของโครง การ “มหานคร” โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์รูปแบบมิกซ์ยูส ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งรวมที่พักอาศัยแบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โรงแรมบางกอก เอดิชั่นและ ไลฟ์สไตล์รีเทลเซ็นเตอร์
โดยโครงการ มหานคร มีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 ปัจจุบันบริษัทสามารถทำยอดขาย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีกว่า 10% และในช่วงปลายปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอกไปออกโรดโชว์ในประเทศสิงคโปร์
ยอดขายของโครงการมหานครที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่า ตลาดผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไฮเอนด์ยังอยู่ในภาวะที่เป็นบวก ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนผู้ซื้อในระยะนี้จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย จากประสบการณ์ของเพซ พบว่าปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ที่เพิ่มขึ้นของชาวต่างชาตินั้น สืบเนื่องมาจากแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการรับรองในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพสูงสุด” นายสรพจน์ย้ำ
โดยล่าสุด นายสรพจน์ได้รับคัดเลือกจากนิตยสาร PropertyReport ในฐานะบุคคลตัวอย่างแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยปี 2556 หรือ Thailand Property Awards Real Estate Personality of the Year ในงานมอบรางวัลของอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จัดขึ้นทุกปี นอกจากนี้ เพซ ยังได้รับรางวัลชมเชยว่าเป็นหนึ่งบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุด และ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ใน “มหานคร” ยังได้รับรางวัลชมเชยว่าเป็นหนึ่งในโครงการระดับลักชัวรี่ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯอีกด้วย ซึ่งรางวัลเหล่านี้ช่วยตอกย้ำความสำเร็จด้านวิสัยทัศน์ที่แตกต่างของเพซ และยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อมากขึ้นอีกด้วย
ขณะที่มหานคร คิวบ์ อาคารไลฟ์สไตล์ แอนด์ รีเทลล์ เซ็นเตอร์ 7 ชั้น ที่มีพื้นที่ประมาณ 5,200 ตารางเมตร ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไปกว่า 90% และสามารถเปิดเฟสแรกอย่างเป็นทางการได้ประมาณเดือน ธันวาคม ศกนี้ โดยร้านค้าที่จะเข้ามาเปิดในคิวบ์ สะท้อนคอนเซ็ปท์หลักของโครงการ มหานคร นั่นคือ ต้องเป็นแบรนด์ระดับโลกที่แตกต่างและต้องสะท้อนความเป็นไฮเอนด์ได้อย่างลงตัวกับโครงการ
โดยปัจจุบันมีร้านค้าจองพื้นที่เข้ามาแล้วกว่า 90% ทั้งนี้ ตัวอย่างร้านค้า อาทิ ร้านแฟลกชิป เอาท์เลทของดีน แอนด์ เดลูก้า ที่จะมาในคอนเซ็ปท์ กูร์เม่ต์ ฟู้ดฮอลล์, ภัตตาคารลัตเตอลิเย่ เดอ โจเอล โรบูชง เชฟมิชลินมือทองชื่อก้องโลกแห่งศตวรรษ, โว้กเล้าจน์ โดยคอนเดนาสท์, บีเอ็มดับบลิว ไลฟ์สไตล์สโตร์, สถาบันสุขภาพและความงาม เวอริต้า จากประเทศสิงคโปร์, ร้านI-Klean Dry Cleaning, ร้านรองเท้า Don’s Footwear รวมถึงร้านค้าที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย
นายสรพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการมหาสมุทร ล่าสุด เพซ ได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญา กับบริษัท นันทวัน จำกัด (ไทยโอบายาชิ) หนึ่งในผู้นำบริษัทรับเหมาก่อสร้างคุณภาพมาตรฐานสูงสุดของไทย เพื่อมอบหมายงานในส่วนโครงสร้างโครงการ โดยเมื่อแล้วเสร็จเพซมั่นใจว่า “มหาสมุทร”จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของหัวหิน
โดยโครงการมหาสมุทรได้ทำพิธีเปิดหน้าดินและวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 5 กันยายน 2556 และมีกำหนดเปิดขายในกลางปี 2557 โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2557 โครงการมหาสมุทร ประกอบด้วยลักชัวรี่วิลล่าจำนวน 90 หลัง หัวหินคันทรี่ คลับและมหาสมุทรบีชคลับมูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่หัวหินซอย 112 บนพื้นที่กว่า 120 ไร่ รายล้อมด้วยทะเลสาบนํ้าใสระบบแมน-เมด ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ขนาดประมาณ 45 ไร่
Thailandindustrycom_official
