สคบ. เคลียร์ปัญหาธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ เร่งผลักดันให้เป็นธุรกิจควบคุมสัญญา
จากการที่มีข่าวเหตุการณ์รถยนต์เกิดเพลิงไหม้ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง และส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สเกือบทั้งหมด ประกอบกับที่ผ่านมา สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่ามีสถานที่ติดตั้งถังแก๊สหลายแห่งที่รับติดตั้งแก๊สโดยไม่มีมาตรฐานและไม่ปลอดภัย จึงต้องมีการลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ตามสถานที่ต่างๆว่ามีมาตรฐานการเพียงพอหรือไม่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและความปลอดภัยมากที่สุด
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกล่าวว่าปัจจุบันทั่วประเทศมีร้านที่เปิดให้บริการติดตั้งแก๊สรถยนต์ทั้งหมดประมาณ 859 แห่ง แบ่งเป็นแบบ LPG 316 แห่ง และแบบ NGV 543 แห่ง ซึ่งก็มีบางส่วนเท่านั้นที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมขนส่งทางบก โดยยังมีอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้การรับรองมาตรฐานและจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ร้านที่รับติดตั้งแก๊สส่วนใหญ่มักมีการโฆษณาที่เป็นการโอ้อวดเกินจริง โดยอ้างว่าเมื่อติดตั้งแก๊สจากร้านนี้แล้วสภาพของรถจะมีการประหยัดน้ำมันได้เท่านั้นเท่านี้ ติดตั้งไปแล้วรถจะไม่เสียการทรงตัว เป็นต้น ซึ่งตรงจุดนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่สามารถรับรองได้ ทาง สคบ.จึงได้มีการสั่งห้ามโฆษณาและได้มีการลงโทษไปในบางรายไปบ้างเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีบางร้านที่มีการระบุด้วยว่าร้านของตนเองติดตั้งแล้วปลอดภัย มั่นใจได้ โดยได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐอย่างถูกต้อง ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างแน่ชัดว่า มีใบรับรองจากภาครัฐจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ติดตั้งจะมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ด้วยหรือเปล่า
ในประเด็นนี้ สคบ.ได้รับมอบหมายจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้ทำการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งสคบ.ได้ลงพื้นที่โดยร่วมมือกับกรมขนส่งทางบก กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปดูและตรวจสอบในเรื่องของมาตรฐานการผลิตถังแก๊ส มาตรฐานในการติดตั้งถังแก๊ส และมาตรฐานของอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเมื่อติดตั้งไปแล้วจะมีการรับประกันความเสียหายให้อย่างไร ถ้ารถเกิดปัญหาขึ้นมา และดูด้วยว่าร้านเหล่านั้นได้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรมขนส่งทางบกหรือเปล่า ซึ่งพบว่ามีประชาชนมาใช้บริการในเรื่องของการติดตั้งแก๊สรถยนต์เป็นจำนวนมาก และยังมีร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์อีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งยังไม่ได้ไปจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก จึงเป็นสิ่งที่ต้องรีบเร่งในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเร่งด่วน โดยต่อไปจะมีมาตรการกำหนดขึ้นมาอย่างชัดเจนว่าร้านที่ให้บริการติดตั้งแก๊สรถยนต์จะต้องมีกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่ชัดเจน
ซึ่ง สคบ.จะเข้ามาพิจารณาแนวทางการควบคุม โดยจะใช้อำนาจตามคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ให้มีการควบคุมเรื่องการทำสัญญา และบังคับให้มีการออกหลักฐานการรับเงินให้ถูกต้อง หากพบผู้ประกอบการฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะมีการเตรียมเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาอนุมัติให้ธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาต่อไปด้วย โดยจะมีการเชิญผู้ประกอบการจากสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมหารือเกี่ยวกับการควบคุมธุรกิจนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยควบคุมธุรกิจการติดตั้งแก๊สในรถยนต์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันและช่วยให้ผู้บริโภคได้รับของที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้หาก สคบ.ตรวจสอบแล้ว พบผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ถูกกฎระเบียบ และมีการได้รับรองมาตรฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานที่ดูแลอย่างชัดเจน ทาง สคบ.จะมีการมอบตราสัญลักษณ์ของ สคบ.ให้เพื่อเป็นการแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าสามารถมาใช้บริการได้อย่างปลอดภัย ได้รับความเป็นธรรมและไม่ถูกเอาเปรียบอย่างแน่นอน
หากผู้บริโภคท่านใดที่ไปใช้บริการร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์แล้วเกิดปัญหา หรือมีการพบเบาะแสเกี่ยวกับร้านรับบริการติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ สคบ.ได้เลย โดยสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งทางระบบร้องเรียนออนไลน์ที่ www.ocpb.go.th ทางไปรษณีย์ที่สามารถขอแบบฟอร์มร้องทุกข์ได้จากเซฟเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ร้านจิฟฟี่ในปั๊ม ปตท. ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ หรือที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดในจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ เทศบาล อบต. ที่ท่านอาศัยอยู่ทุกจังหวัด รวมถึงศูนย์ กศน. ตำบล หรือปรึกษาปัญหาข้อสงสัยได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 และกรมขนส่งทางบก สายด่วน 1584 หรือกระทรวงพลังงาน โทร. 0 2140 6000” เลขาธิการ สคบ.กล่าวทิ้งท้าย