เนื้อหาวันที่ : 2013-09-06 07:20:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1733 views

ส.อ.ท. จับมือ สสปน. ดันไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงานอาเซียน

ส.อ.ท. จับมือ สสปน. ดันไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงานอาเซียน จัดงาน EcoLightTech Asia 2013 ครั้งแรกในไทย ครั้งใหญ่ของอาเซียน

 สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ผนึกพันธมิตรยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมพลังงานพร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน จัดงาน EcoLightTech Asia 2013 สุดยอดนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่าง ครั้งแรกในประเทศไทยและครั้งใหญ่ของอาเซียน ตอบรับกระแสความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น ชูกลยุทธ์สร้างสรรค์ผู้ประกอบการด้วยแนวคิด “ประหยัดพลังงานและรักษ์โลก”พร้อมก้าวเป็นศูนย์กลางการค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานแห่งอาเซียน

วันนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ นายรุ่งเรือง สายพวรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงาน EcoLightTech Asia 2013ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ณ ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯพร้อมเสวนาในหัวข้อ “Eco Light Technology เทรนใหม่รักษ์พลังงาน รักษ์โลก” โดยได้รับเกียรติจากนางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ร่วมด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการพัฒนา ผลิต และ จัดจำหน่ายนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างระดับภูมิภาค เรเซอร์การไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด

 นายรุ่งเรือง สายพวรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน รัฐบาลมีนโยบายด้านความร่วมมือร่วมกับประเทศต่างๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีแสงสว่างประหยัดพลังงาน ตามแผนอนุรักษ์ พลังงาน 20 ปี (พ.ศ. 2554-2573) ของกระทรวงพลังงาน มีเป้าหมายที่จะลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานลง 25% ในปี พ.ศ. 2573 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2553 หรือเทียบเท่ากับการลดการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายลง 23.5% ในปี พ.ศ. 2573 หรือคิด เป็น 38,200 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 272 พันล้านบาทต่อปี รวมทั้งลดการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจก เฉลี่ย 49 ล้านตันต่อปี

รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการที่จะกำกับดูแลและส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม และบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) ให้คำปรึกษาและบริการด้านการอนุรักษ์พลังงารนอย่างครบวงจรและเสริมสร้างผู้ประกอบการให้มีการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเริ่มต้นและพัฒนาพร้อมกันทุกองค์ประกอบของการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า การออกแบบอาคาร สำนักงาน และเครื่องยนต์ โดย เทคโนโลยี อีโค ไลท์ (Eco Light Technology) เป็นนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างได้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนยุคใหม่ ช่วยลดต้นทุนการผลิตที่สำคัญ”

เทคโนโลยี อีโค ไลท์ (Eco Light Technology) ที่น่าสนใจคือ หลอดประหยัดพลังงาน LED ซึ่งช่วยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำลงไปได้มากตั้งแต่ 15-70% ทำให้เจ้าของกิจการสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และเทคโนโลยีล่าสุด OLED พลาสติกเรืองแสงนาโนคล้ายแผ่นฟิล์มที่มีความโปร่งใส สามารถปรับโค้งงอได้ตามรูปแบบที่ต้องการ เหมาะสำหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคารและสถานที่ต่างๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัด รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี

นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า “แผนกลยุทธ์ 3 ปี (พ.ศ. 2556-2558) ของทีเส็บต้องการสร้างไทยให้เป็นเวทีหลักของธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยจะเข้าไปมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้รองรับการจัดงานขนาดใหญ่ มีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานและผู้จัดแสดงสินค้าจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2558 มูลค่าการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติจะเติบโตประมาณ 30% นำจำนวนผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติเข้าสู่ประเทศได้กว่า 300,000 คน และสร้างรายได้ให้กับประเทศสูงถึง 30,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนการตลาดสำคัญที่ผลักดันประเทศไทยไปสู่เป้าหมายนั่นคือ การทำตลาดในต่างประเทศ โดยทีเส็บได้ร่วมสนับสนุนการทำกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ และกิจกรรม Visitor Promotion คือแคมเปญ “100-A-Head” ซึ่งเป็นแคมเปญเพื่อดึงกลุ่มนักธุรกิจเข้าร่วมชมงานจากกลุ่มประเทศอาเซียนพลัสซิก และ “Be My Guest” ที่ให้การสนับสนุนห้องพักสำหรับผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลกให้มาร่วมสัมผัสศักยภาพของไทย ในงาน EcoLightTech Asia 2013 ครั้งนี้” นางจารุวรรณกล่าวเสริม

EcoLightTech Asia 2013 เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแสงสว่างเพื่อผู้ประกอบการ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ณ ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร จากผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลกกว่า 100 ราย เช่น Sylvania, Konica Minolta, OSRAM, และRacer ในเบื้องต้นได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้เข้าชมงานจากประเทศต่างๆ อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ฟิลิปปินส์ พม่า และอินโดนีเซีย เป็นต้น สำหรับกลุ่มเป้าหมายประเทศไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากภาคอุตสาหกรรม ภาคพาณิชย์ และภาครัฐ เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายออกแบบ และฝ่ายเทคนิคจากโรงแรม โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ ผู้บริหารสาธารณูปโภคต่างๆ อาคารพาณิชย์ ศูนย์ราชการ โรงงานอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 5,000-8,000 รายตลอดการจัดงาน

นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัดกล่าวว่า“งาน EcoLightTech Asia 2013 ครั้งนี้ นำเสนอในรูปแบบใหม่อย่างครบวงจร ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดด้านแสงสว่างจากทั่วโลกมาจัดแสดง ทั้งในแบบผลิตภัณฑ์ที่พร้อมใช้งาน บริการที่เกี่ยวข้อง และอุปกรณ์ชิ้นส่วนเพื่อการผลิต รวมทั้งการจัดอบรมสัมมนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการพัฒนาประยุกต์ใช้นวัตกรรมให้เหมาะสมต่อการใช้งานแต่ละประเภท ที่สำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงาน และกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้เจรจาการค้าแบบตัวต่อตัว หรือผ่านบริการจับคู่ทางธุรกิจก็เป็นไปได้ อีกทั้งผู้ประกอบการยังสามารถเพิ่มช่องทางการขายผ่านการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย และ/หรือร่วมลงทุนขยายธุรกิจ หรือนักธุรกิจที่สนใจอยากแสวงหาโอกาสการดำเนินธุรกิจด้านแสงสว่าง ก็สามารถเข้ามาศึกษาและเจรจา เพื่อให้ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดได้ภายในงานเช่นกัน”

กิจกรรมเด่นภายในงาน คือ LED Product Showcase เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าที่ได้รับความนิยม และ/หรือสินค้าขายดีขององค์กรต่างๆ หรือสินค้าใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในอนาคต โดยแต่ละสินค้าจะระบุลักษณะเด่นไว้ เพื่อให้เป็นข้อมูลแก่ผู้เข้าชมงานรวมทั้ง ภายในงานยังจัดให้มีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ อบรมสัมมนาความรู้ด้านอุปกรณ์แสงสว่างเพื่อผู้ประกอบการ (Lighting Workshop) เพื่อให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับ LED การเปรียบเทียบและคำนวณค่าใช้จ่าย ความคุ้มทุน ตลอดการออกแบบเพื่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ อย่างเหมาะสมตลอดจน การจัดกิจกรรม “เยี่ยมชมสถานประกอบการสีเขียวด้านการประหยัดพลังงาน”เพื่อสร้างความเข้าใจและแนวทางการปฏิบัติใช้อย่างเป็นรูปธรรมของการเปลี่ยนระบบไฟมาใช้หลอดประหยัดพลังงาน LED โดยผู้สนใจจะได้เข้าชมสถานประกอบการ พร้อมได้รับข้อมูลด้านการบริหาร จัดการ และการคำนวณต้นทุน ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้จำนวนมาก

นาย แมน สุวรรณพิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัดได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า “ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยี อีโค ไลท์ เป็นนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างที่จะมีการนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อช่วยในการลดต้นทุนการผลิต และสามารถนำไปออกแบบหรือประยุกต์ใช้ในพื้นที่และพื้นผิวต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติไปในคราวเดียวกัน สำหรับงานนี้ เรเซอร์การไฟฟ้าได้จัดเตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจภายในงานไว้มากมาย”

 สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมออกร้าน หรือนักธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ EcoLightTech Asia 2013 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ecolighttech.com หรือโทรศัพท์ 02 203 4261-2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 – 18.00 น.