การปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน หรือก๊าซหุงต้ม กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 1 กันยายนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่แท้จริ
การปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน หรือก๊าซหุงต้ม กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 1 กันยายนนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ราคาสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่แท้จริง และยังลดปัญหาการลักลอบนำก๊าซไปขายผิดประเภท แต่การปรับขึ้นราคานั้น อาจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนที่มีรายได้น้อยในประเทศได้ ดังนั้น กระทรวงพลังงานที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านนี้ จะมีมาตราการบรรเทาผลกระทบอย่างไรนั้น
วันที่ 1 กันยายนนี้ กระทรวงพลังงานจะเริ่มทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน หรือก๊าซหุงต้ม 0.50 บาทต่อกิโลกรัมต่อเดือนอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อให้ราคาก๊าซขยับขึ้นมาจนถึงราคาที่สะท้อนต้นทุนหน้าโรงแยกธรรมชาติที่แท้จริงในราคา 24.82 บาทต่อกิโลกรัม และยังเพื่อป้องกันการลักลอบนำก๊าซไปขายผิดประเภทด้วยนั้น ซึ่งการปรับราคาดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพสำหรับผู้มีรายได้น้อยได้ ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงมีมาตรการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้มีรายได้น้อย
โดยให้มีการขึ้นทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิซื้อก๊าซในราคาเดิมที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัมต่อไป และแบ่งกลุ่มผู้ได้รับการช่วยเหลือออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มครัวเรือนผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย จำนวน 7.6 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 15 ล้านคนซึ่งช่วยเหลือตามการใช้จริงแต่ไม่เกิน 18 กิโลกรัมต่อ3 เดือน และกลุ่มร้านค้าหาบเร่แผงลอยช่วยเหลือตามการใช้จริงไม่เกิน 150 กิโลกรัมต่อเดือน พร้อมทั้งกำหนดขั้นตอนของการขอใช้สิทธิ์
คือทั้งหมดจะต้องใช้สิทธิ์ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยการส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ซึ่งจะเริ่มจากมีการแจ้งรหัสให้กับผู้มีสิทธิ์สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยในบิลค่าไฟฟ้า และจัดทำในรูปแบบบัตรประจำตัวให้กับกลุ่มร้านค้าหาบเร่แผงลอย โดยก่อนการสั่งซื้อ จะต้องให้ผู้มีสิทธิ์ส่งรหัสประจำตัวลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และระบบโทรศัพท์จะส่งรหัสยืนยันสิทธิ์กลับมา จากนั้นก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนของการขอใช้สิทธิ์สั่งซื้อก๊าซกับผู้ขายได้ตลอดไป
ซึ่งนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า สำหรับที่มีคนไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนนี้ ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาจะไม่ส่งผลกระทบให้กับผู้มีรายได้น้อยแน่นอน และยังทำให้ผู้ที่จะได้รับผลกระทบถูกกลุ่มผู้ใช้มากขึ้น
สำหรับประชาชนที่ต้องการขอจดทะเบียนเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคาเดิมนั้น ยังคงลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเขต องค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาล สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ หรือหากต้องการสอบถามถึงขั้นตอนการใช้สิทธิ์ สามารถดูได้ที่ www.lpg4u.net หรือโทรศัพท์สอบถามที่หมายเลข 02-140-7000
ข้อมูลข่าวและที่มา : ปัทมา สุทธิประทีป /สวท.