ปตท. เผยหยุดเดินเครื่องโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 ไม่กระทบผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ใช้รถ NGV แน่นอน
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยลำดับเหตุการณ์โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง หน่วยที่ 5 ที่ต้องหยุดเดินเครื่อง เนื่องจากอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจากไอเสียเครื่องยนต์ (Waste Heat Recovery Unit : WHRU) ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุฟ้าผ่าว่า ในค่ำวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เกิดฝนตกฟ้าคะนองอย่างหนักต่อเนื่องในจังหวัดระยอง จนเมื่อเวลา 00.34 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ได้เกิดเหตุฟ้าฝ่าลงมาที่สายล่อฟ้าบน
หอระบายความร้อน (stack) ที่เป็นจุดสูงสุดในพื้นที่โรงแยกก๊าซฯ มีความสูงประมาณ 135 เมตร และติดตั้งบนปล่องระบายไอเสียของ WHRU ส่งผลให้อุปกรณ์ WHRU ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบพื้นที่ และสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด สำหรับสาเหตุของความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เบื้องต้นคาดว่าต้องใช้เวลาซ่อมแซม ประมาณ 3 - 5 เดือน โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 จึงจะสามารถกลับมาเดินเครื่องได้
นายชาครีย์ กล่าวย้ำว่า “ ในช่วงที่โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 หยุดเดินเครื่อง ทำให้ปริมาณ LPG ที่โรงแยกก๊าซฯ ผลิตได้ลดลงไป ประมาณ 2,500 ตันต่อวัน โดย ปตท. จะบริหารจัดการในการจัดหา และการผลิตอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงในภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม รวมถึง ผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง (NGV) ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างแน่นอน”