ดันสินค้าอิฐมวลเจาะกลุ่มผนัง เปิดแนวรุกบุกอสังหาฯ ทั้งแนวดิ่ง-แนวราบ
DRT มองตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว หลังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดต่างจังหวัดที่ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแห่ผุดสาขา และผู้ประกอบการอสังหาฯ เน้นลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ หนุนความต้องการสินค้ากลุ่มหลังคาคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์พุ่ง ลุยประกาศแนวรบบุกตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ชูอิฐมวลเบาเป็นพระเอก ดันสัดส่วนยอดขายจากช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและลูกค้าโครงการเพิ่ม มั่นใจเป้าปีนี้เติบโต 10%
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ ไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า จากการประเมินภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลัง พบว่า ยังมีแนวโน้มการขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนขยายสาขาห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ และการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและแนวสูงของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามหัวเมืองใหญ่ ส่งผลให้มีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ “ตราเพชร” คาดว่า สินค้าวัสดุก่อสร้างกลุ่มหลังคาคอนกรีตและไม้สังเคราะห์ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในช่องทางขายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในต่างจังหวัดนิยมเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ คาดว่า สัดส่วนยอดขายของแบรนด์ตราเพชรผ่านช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่จะเพิ่มขึ้นเป็น 14-15% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนยอดขาย 8-9% จากยอดขายรวมทั้งหมด
“แม้หลายฝ่ายกังวลว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลง แต่เรามองในแง่ที่ดี เนื่องจากภาคเอกชนยังลงทุนขยายสาขาและลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างแรงงานที่ทำให้คนในท้องถิ่นมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและใช้จ่ายเงินเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบการซ่อมแซมและก่อสร้างบ้าน จึงเป็นแรงหนุนที่ดีต่อตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลัง” นายสาธิต กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร กล่าวว่า ส่วนแนวทางทำตลาดครึ่งปีหลัง “ตราเพชร” จะรุกขยายตลาดที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงมากขึ้น เนื่องจากความพร้อมของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มผนัง โดยตราเพชรจะชูอิฐมวลเบาเป็นหัวหอกรุกตลาด ซึ่งช่วยให้ตราเพชรสามารถขายสินค้าไปยังกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือประเภทคอนโดมิเนียมได้ดียิ่งขึ้น จากเดิมที่ตราเพชรมีผลิตภัณฑ์หลังคาและไม้สังเคราะห์ ซึ่งนิยมนำไปใช้ในกลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เป็นหลัก
สำหรับรูปแบบการทำตลาดนั้น บริษัทฯ จะนำเสนอสินค้าที่เป็นรูปแบบแพ็คเกจ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์หลังคาจนถึงผลิตภัณฑ์ผนังพร้อมบริการติดตั้งให้แก่กลุ่มลูกค้าโครงการ เพื่อผลักดันการขายสินค้าจากฐานลูกค้าดังกล่าวให้มากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าโครงการ 5-6% จะเพิ่มเป็น 8-9% จากยอดขายรวมในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 10% ตามเป้าที่วางไว้