เนื้อหาวันที่ : 2013-08-08 03:17:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2041 views

นามยง เทอร์มินัล เบอร์หนึ่งท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์

เตรียมขาย IPO 205.5 ล้านหุ้น ตั้ง บล. ทิสโก้ ที่ปรึกษา นำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“นามยง เทอร์มินัล” ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off : Ro/Ro) ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง หรือกว่า 80% ของปริมาณการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยที่มีกว่า 1 ล้านคันต่อปี ยื่นแบบคำขอและไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 205.5 ล้านหุ้น ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บมจ. นามยง เทอร์มินัล ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 205.5 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

ปัจจุบัน บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนจำนวน 620 ล้านบาท โดยทุน ที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว มีจำนวน 414.50 ล้านบาท คิดเป็น 414.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกหลักของประเทศไทยที่ใช้ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยส่วนใหญ่ โดยการให้บริการของบริษัทฯ ประกอบด้วย การให้บริการท่าเทียบเรือ การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้าและเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก

นอกจากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 แล้ว ในปี 2555 บริษัทฯ ร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลชั้นนำของโลก ได้เข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด หรือ LRT โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20.00 และมีสิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีก ไม่เกินร้อยละ 29.00 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49.00 สำหรับ LRT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ซึ่งมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการในบริเวณท่าเทียบเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ทิสโก้ กล่าวด้วยว่า สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งบริษัทฯ จะนำไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารเพื่อลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ อีกส่วนหนึ่งจะนำไปลงทุนขยายกิจการเพื่อรองรับปริมาณการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2545 ที่กลุ่มของตนได้เข้าเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “นามยง เทอร์มินัล” ต่อจาก กลุ่ม บมจ. บ้านปู เป็นต้นมา กิจการของบริษัทฯ ได้มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทย โดยปริมาณรถยนต์ที่ส่งออกผ่าน ท่าเทียบเรือ A5 ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 2 แสนกว่าคันในปี 2546 เป็นกว่า 8 แสนคันในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว โดยที่ท่าเทียบเรือ A5 ของบริษัทฯ ครองความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 80% มาโดยตลอด

เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวกับการขนส่งทางทะเลและการบริหารท่าเรือมากว่า 30 ปี ดังนั้นหลังจากที่ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ต่อจากกลุ่ม บมจ. บ้านปู เราจึงได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมาปรับปรุงพัฒนากิจการท่าเทียบเรือ A5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ท่าเทียบเรือ A5 มีการให้บริการ ที่ครบวงจร ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทสายเดินเรือที่ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลก

โดยปัจจุบัน ท่าเทียบเรือ A5 มีท่าเทียบเรือย่อยรวม 3 ท่า ความยาวหน้าท่ารวม 697 เมตร ความลึกร่องน้ำ 17 เมตร สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ถึง 80,000 DWT มีพื้นที่ให้บริการในท่าเทียบเรือรวม 247,000 ตารางเมตร สามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุด 15,437 คันในเวลาเดียวกัน และมีพื้นที่จอดพักรถยนต์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนส่งออกในบริเวณรอบๆ ท่าเทียบเรืออีกประมาณ 486,123 ตารางเมตร สามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุด 30,113 คันในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการพื้นที่จัดเก็บสินค้าและคลังสินค้ารวม 155,113 ตารางเมตร ทั้งนี้ ในการบริหารงานและ การให้บริการ บริษัทฯ ได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่ทันสมัยซึ่งพัฒนาขึ้นเองมาใช้ เพื่อให้ การบริหารงานและการให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอีกด้วย” นายเทพรักษ์ กล่าว