เนื้อหาวันที่ : 2013-08-06 17:00:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2300 views

3 สมาคมโรงงานน้ำตาล ร่วมมือรัฐจัดโซนนิ่งพืช พร้อมรับซื้อผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

สร้างรายได้ที่มั่นคง เผยอ้อยที่จะมีปริมาณมากขึ้นตามพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นปัญหา มั่นใจโรงงานสามารถรองรับผลผลิตได้ทั้งหมด

3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ให้ความร่วมมือนโยบายจัดโซนนิ่งของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะทำงาน ร่วมประสานงาน สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่ต้องเปลี่ยนจากพืชชนิดอื่นมาเป็นอ้อย พร้อมให้ความรู้ทุกด้านที่จะทำให้สร้างผลผลิตอ้อยป้อนเข้าสู่โรงงานได้อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่มั่นคง เผยอ้อยที่จะมีปริมาณมากขึ้นตามพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นปัญหา มั่นใจโรงงานสามารถรองรับผลผลิตได้ทั้งหมด 

ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช 6 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า เพื่อให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐในเรื่องโซนนิ่งดังกล่าว ทาง 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายจึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรที่เคยปลูกพืชอื่นแต่อยู่ในเขตพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อย ซึ่งอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ในการปลูกอ้อยโรงงาน

นายสิริวุทธิ์ กล่าวว่า การให้ความร่วมมือของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย  สามารถทำได้ตั้งแต่การให้ความรู้เรื่องการจัดเตรียมพันธุ์อ้อย จัดเตรียมดิน ระบบการให้น้ำ การตัดอ้อย รวมถึงองค์ความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเพาะปลูกและการดูแลอ้อยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในด้านการเพาะปลูกอ้อยให้กับเกษตรกรที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การปลูกอ้อย

ทั้งนี้  ศักยภาพการผลิตของโรงงานน้ำตาลทรายปัจจุบัน สามารถรองรับอ้อยได้ประมาณ 130 ล้านตัน อีกทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ทุกปี ในขณะที่ผลผลิตอ้อยเข้าหีบมีประมาณ 100 ล้านตัน จากพื้นที่ปลูกอ้อยประมาณ 10 ล้านไร่ ดังนั้น การที่จะมีพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นจากนโยบายจัดโซนนิ่งจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเกษตรกรและโรงงานน้ำตาล ซึ่งสามารถรับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นได้แน่นอน 

การจัดตั้งคณะทำงานของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ก็เพื่อจะให้ความมั่นใจกับเกษตรกรที่อยู่ในเขตส่งเสริมการปลูกอ้อยเพื่อสร้างรายได้ใหม่ แต่ไม่มีประสบการณ์ ว่าจะไม่โดดเดี่ยวแน่นอน ภาครัฐก็คงมีมาตรการสนับสนุนช่วยเหลืออยู่แล้ว ทางด้านของโรงงานน้ำตาลทรายเองก็พร้อมจะให้องค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรที่หันมาปลูกอ้อยว่าจะมีความมั่นคงทางด้านรายได้ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมั่นคง” นายสิริวุทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกพืชชนิดเดิมอยู่ จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชที่แนะนำหรือไม่ โดยภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจะให้ข้อมูลแก่เกษตรกรเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้แนวทางสำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกอ้อยมากที่สุดไว้ด้วยว่า จะอยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจากโรงงานน้ำตาล และรองลงมาก็คือระยะ 50-100 กิโลเมตรจากโรงงานน้ำตาล ส่วนระยะที่ไกลกว่า 100 กิโลเมตร จะไม่ประกาศให้เป็นเขตส่งเสริมการเพาะปลูกอ้อย