คณะอนุกรรมการพิจารณาปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ของเดือนมิถุนายน-กันยายน 2550 และหารือถึงแนวทางการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มิถุนายน คณะอนุกรรมการพิจารณาปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่ของเดือนมิถุนายน-กันยายน 2550 และหารือถึงแนวทางการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (Energy Tax) หลังจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดให้โรงไฟฟ้าเก่าและใหม่จ่ายเงินเข้ากองทุนตามประเภทของเชื้อเพลิง โดยเงินดังกล่าวจะรวมเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันจะเริ่มนำมารวมกับต้นทุนค่าไฟในรอบนี้ |
. |
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯตามมติ กพช. ต้องจัดเก็บทั้งโรงไฟฟ้าเก่าและใหม่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ซึ่งโรงไฟฟ้าใหม่โดยเฉพาะภาคเอกชนที่จะประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่หรือไอพีพี สามารถคำนวณต้นทุนไว้ในสัญญาขายไฟได้ทันที แต่ถ้าเป็นโรงไฟฟ้าเก่าทั้งเอกชนและ กฟผ.คงจะต้องนำมาบวกในค่าไฟกับประชาชนแต่ละเดือนซึ่งน่าจะเริ่มได้ในค่าไฟงวดใหม่นี้ |
. |
"คงต้องมีการปรับสูตรค่าเอฟทีกันใหม่ เพื่อให้การเก็บภาษีโรงไฟฟ้ามีผลในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก่าคงไปปรับอัตราซื้อขายไฟฟ้าไม่ได้เพราะเป็นการทำสัญญาผูกพันไว้แล้ว ดังนั้น รัฐจะต้องมากำหนดรูปแบบการจัดเก็บให้ชัดเจน และคงจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1 สตางค์ต่อหน่วย" แหล่งข่าวกล่าว |
. |
ที่มา : มติชน |