เนื้อหาวันที่ : 2007-06-05 10:00:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1628 views

โรงงานแห่ผลิตไบโอดีเซลดึงราคาปาล์มน้ำมันพุ่ง

ตลาดน้ำมันปาล์มป่วน ราคาพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เหตุเพราะถูกดึงปริมาณปาล์มออกจากตลาดเพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซล ทำให้ความต้องการมีมากขึ้น เตือนเกษตรกรอย่าเร่งตัดปาล์มอ่อนเข้าโรงงานอาจถูกกดราคาได้

ตลาดน้ำมันปาล์มป่วน ราคาพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เหตุเพราะถูกแบ่งไปผลิตไบโอดีเซล เตือนเกษตรกรอย่าเร่งตัดปาล์มอ่อนเข้าโรงงานอาจถูกกดราคาได้

.

นายสมชาย สุทธิรักษาวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ปีนี้ปาล์มน้ำมันมีราคาสูงขึ้นมาก เพราะมีการนำน้ำมัน ปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล จึงทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มสูงขึ้น ปัจจุบันการซื้อขายปาล์มน้ำมันดิบมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 4.30 บาท ถือว่าเป็นราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ 2 บาทเศษเท่านั้น

.

อย่างไรก็ตามข้อมูลปริมาณปาล์มในปีนี้ผิดพลาดมาก เพราะเคยมีการประเมินว่าปริมาณปาล์มดิบที่จะออกสู่ตลาดปีนี้อาจน้อยกว่านี้เนื่องจากเกิดปัญหาภัยแล้งในปีที่แล้ว แต่ขณะนี้ผลกระทบดังกล่าวกลับไม่รุนแรงตามที่คาดการณ์เอาไว้ ปัจจุบันปริมาณผลผลิตปาล์มยังออกสู่ตลาดตามปกติ ทำให้โรงงานสกัดต้องเร่งรับซื้อเพื่อให้ทันส่งมอบให้แก่โรงกลั่นและผู้ที่ต้องการนำน้ำมันปาล์มไปแปรรูป ที่สำคัญคือภาคพลังงานได้มีการดึงปริมาณปาล์มออกจากตลาดเพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซล ทำให้ความต้องการมีมากขึ้น

.

นายสมชายกล่าวต่อไปว่า ราคาปาล์มที่สูงขึ้นอาจเป็นผลดีกับเกษตรกรในระยะสั้น แต่ไม่เป็นผลดีต่อตลาดในระยะยาว เนื่องจากผู้ต้องการใช้น้ำมันปาล์มอาจหันไปขออนุญาตนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ หรือหาวัสดุอื่นมาทดแทนน้ำมันปาล์ม ทั้งนี้ราคาน้ำมันปาล์มที่เหมาะสมน่าจะอยู่ประมาณ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้และผู้ที่ต้องการใช้น้ำมันก็รับได้

.

"ทุกครั้งที่น้ำมันปาล์มมีราคาสูงขึ้น ปัญหาที่มักเกิดขึ้นตามมาก็คือเรื่องคุณภาพปาล์มน้ำมันก่อนเข้าโรงงาน เพราะเกษตรกรมักรีบตัดปาล์มอ่อนเข้าโรงงาน ทำให้ถูกโรงงานกดราคา ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรดูแลการตัดปาล์มให้ดี เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกรเอง"

.

รายงานข่าวแจ้งว่า ปาล์มน้ำมันถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักพืชหนึ่งของจังหวัดภาคใต้ตั้งแต่ ปี 2536 เป็นต้นมา มีการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชุมพร ใน ปี 2546 มีพื้นที่ปลูกปาล์มเพียง 290,715 ไร่เท่านั้น แต่ได้เพิ่มเป็น 590,543 ไร่ในปี 2547 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 650,000-700,000 ไร่ในปีนี้

.

ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร พบว่าปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพื้นที่ภาคใต้จะให้ผลผลิตประมาณ 2,400-2,700 กิโลกรัมต่อไร่ และจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดตามลำดับคือ จ.กระบี่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร

.

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ