ภายในปีนี้ประเทศไทยจะเริ่มเปลี่ยนการส่งสัญญาณโทรทัศน์เป็นการออกอากาศด้วยระบบดิจิตอล
ภายในปีนี้ประเทศไทยจะเริ่มเปลี่ยนการส่งสัญญาณโทรทัศน์เป็นการออกอากาศด้วยระบบดิจิตอล โดยการขับเคลื่อนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
ซึ่งการเปลี่ยนไปสู่โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลเป็นการเปลี่ยนระบบเทคโนโลยีในการส่งสัญญาณการออกอากาศจากระบบอนาล๊อกที่ใช้งานในปัจจุบันเป็นการออกอากาศด้วยระบบดิจิตอล ซึ่งจะทำให้มีช่องสัญญาณในการออกอากาศเพิ่มขึ้น สามารถจัดสรรช่องรายการโทรทัศน์ได้เพิ่มขึ้นด้วยคลื่นความถี่เท่าเดิมที่มีอยู่ นั่นหมายความว่า เมื่อเข้าสู่โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ ประเทศไทยจะมีช่องฟรีทีวีเช่นช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยและสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเป็นทางเลือกในการรับชมให้ประชาชนถึง 48 ช่อง
พันเอกนที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ช่องฟรีทีวีในระบบดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นเป็น 48 ช่อง จะเป็นช่องรายการที่มีเนื้อหาคุณภาพ เนื่องจากผู้ประกอบการที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของรายการจะต้องผ่านกระบวนการตรวจคุณสมบัติและการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ มีความละเอียดของภาพในการรับชมจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และการเปลี่ยนไปสู่โทรทัศน์ระบบดิจิตอล โทรทัศน์ในระบบอนาล๊อกเดิมที่ใช้งานในปัจจุบันประชาชนก็ยังสามารถรับชมได้ตามปกติโดยไม่มีผลกระทบใดๆ โดย กสทช.ได้กำหนดให้มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลแล้วเสร็จทั้งระบบและยุติการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบอนาล๊อกภายในปี 2558
สำหรับข้อดีของการมีระบบโทรทัศน์แบบดิจิตอลเข้ามาใช้แทนระบบอนาล็อกนั้น สัญญาณภาพและเสียงดีขึ้น ความคมชัดและมีระบบเสียงที่สมจริงมากขึ้น มีความเสถียรของสัญญาณ ผู้ชมสามารถเลือกรับชมรายการเช่น ช่องข่าว ช่องกีฬาได้อย่างหลากหลาย สามารถรับชมรายการทีวีขณะเดินทางในรถยนต์โดยภาพไม่กระตุกหรือปัญหาสัญญาณอ่อน ตลอดจนรองรับการใช้งานสื่อผสมต่าง ๆ ทั้งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวก
ขอบคุณข้อมูลข่าว : สำนักข่าวแห่งชาติ
Thailandindustrycom_official
