พาณิชย์ฯ ผนึกกำลัง 17 หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ให้บริการส่งออกครบวงจร ที่ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกระตุ้นยอดส่งออกรับศักราชใหม่ ชูศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ รัชดาฯ ที่ผนึกกำลัง 17 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมบริการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ พร้อมออกเอกสารการอนุญาตและใบรับรอง ที่เดียวสะดวก ทันใจ ประหยัดเวลาและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการ
ดร.วุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ หรือ ONESTOP Export Service Center หรือที่รู้จักกันในชื่อ OSEC นั้น มีพันธกิจสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ผลิต-ผู้ส่งออกไทย รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีความพร้อมต่อการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ ศูนย์ OSEC จึงได้ผนึกกำลังกับ 17 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กรมการค้าต่างประเทศ, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมปศุสัตว์,
สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, กรมควบคุมโรค, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ (MOC Service Link) , กรมศุลกากร, กรมการกงสุล, กรมวิชาการเกษตร, กรมประมง, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank), สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หรือ TIFFA และสมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศยาน หรือ TAFA ในการให้บริการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ
อาทิ การใช้สิทธิพิเศษเขตการค้าเสรี หรือ FTA ด้านทรัพย์สินทางปัญญา การขอรับรองเอกสาร ข้อมูลด้านศุลกากร การนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและยา รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการเงินสำหรับธุรกิจ SMEs เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ ยังให้บริการออกใบรับรองและจดทะเบียนการค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ใบรับรองสุขอนามัยสินค้าปศุสัตว์ ใบรับรองสินค้าฮาลาล การจดทะเบียน และขอใบรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ ฯลฯ”
ดร.วุฒิชัย กล่าวย้ำอีกว่า จุดเด่นของศูนย์ OSEC คือการให้บริการที่ครบวงจร ณ จุดเดียว ของ 17 หน่วยงาน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ผลิต-ผู้ส่งออกไทยใน การติดต่อกับหน่วยงานเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดระยะเวลาและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดขั้นตอน ในการติดต่อหลายๆ หน่วยงานให้เหลือในที่เดียว และที่สำคัญคือผู้ส่งออกได้รับคำแนะนำ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกจากหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า นอกจากจะสามารถส่งเสริมธุรกิจการส่งออกให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 อีกด้วย”