รมว.คมนาคม ย้ำนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการก่อสร้างรถไฟฟ้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมเร่งรัดหน่วยงานในสังกัด เดินหน้าโครงการสำคัญในความรับผิดที่ยังล่าช้าให้เดินตามแผน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลกระทบด้านการจราจรจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ว่า ยอมรับว่าปัจจุบันสภาพการจราจรมีความคับคั่งมากขึ้น ซึ่งมาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งนโยบายรถคันแรก จากตัวเลขการจดทะเบียนรถใหม่ในปี 2554 - 2555 เป็นรถจากนโยบายรถคันแรกร้อยละ 50 จากรถที่จดทะเบียนใหม่
เฉลี่ยมีรถใหม่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครประมาณ 1,190 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 939 คัน และรถบรรทุก 252 คัน แต่รถยนต์คันแรกส่วนใหญ่จะจดทะเบียนต่างจังหวัดถึงร้อยละ 81 ที่เหลือประมาณร้อยละ 18.7 เป็นรถใหม่ที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายสายทาง รวมถึงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่มีส่วนทำให้การจราจรติดขัด
สำหรับนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ภาพรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างมากนัก โดยค่าแรงจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 1.6 จากมูลค่าโครงการงานก่อสร้าง ทั้งนี้ปัจจุบันงานก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าค่าตอบแทนจะได้มากกว่าวันละ 300 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจึงไม่กระทบต่อภาคก่อสร้าง แต่ปัญหาขณะนี้คือ การขาดแคลนแรงงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงผลการประชุมติดตามผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ว่า ขณะนี้ยังมีโครงการก่อสร้างระบบรางหลายสายทางที่ยังล่าช้า ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ทั้งสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รถไฟฟ้าสายสีชมพู
เส้นทางแคราย-มีนบุรี สายสีส้ม เส้นทางตลิ่งชัน-มีนบุรี จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย รถไฟทางคู่ แก่งคอย-คลอง 19 ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้วเหลือขั้นตอนการประมูล การก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง หรือมอร์เตอร์เวย์ เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา
เส้นทาง บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบททำคันกั้นน้ำที่ยังมีปัญหากับชาวบ้าน รวมถึงการท่าเรือแห่งเทศไทย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งต้องมีการขยายเพราะขณะนี้มีความแออัด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เร่งก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ N1,N2,N3 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้เดินหน้าทันที แม้จะยังมีปัญหาเรื่องเวนคืนที่ดินบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ขอบคุณข้อมูลข่าว : สำนักข่าวแห่งชาติ