DRT ชี้ตลาดวัสดุก่อสร้างปี 56 เน้น สินค้าสำเร็จรูป หวังลดต้นทุนก่อสร้าง รับมือค่าแรงพุ่ง
ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ชี้แนวโน้มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างปี 56 จะมุ่งเน้นนำเสนอสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้น หวังช่วยลดระยะเวลาก่อสร้างและต้นทุนแรงงาน รองรับกับการปรับเพิ่มค่าแรง 300 บาทและแรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลน ระบุช่องทางขายผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่โตต่อเนื่อง หลังพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าหนุน มั่นใจสินค้ากลุ่มกระเบื้องคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ยังมาแรง หลังทำยอดขายเติบโตได้ดี
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มของตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2556 จะได้รับแรงกดดันจากนโยบายของภาครัฐที่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนก่อสร้างโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่รุนแรงขึ้น จะทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างมองหาผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพื่อลดการใช้แรงงาน ทำให้ต้นทุนก่อสร้างลดลง
ในส่วนช่องทางจำหน่ายนั้น พบว่า การจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ยังขยายตัวได้ดี โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีแผนลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสดีของตราเพชรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไปยังกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ บริษัทฯได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดและการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางดังกล่าวไว้แล้ว เพื่อรองรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าที่นิยมเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่มากขึ้น
“เรามองว่า ในปีหน้า ปัจจัยด้านต้นทุนแรงงานจะเข้ามากดดันทำให้ผู้รับเหมามองหาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ช่วยให้การก่อสร้างเร็วขึ้น เช่น เดิมใช้อิฐมอญก่อสร้างผนัง ก็จะปรับเปลี่ยนมาใช้อิฐมวลเบามากขึ้น เพื่อลดขั้นตอนการก่อและฉาบ หรือเลือกใช้ไม้บอร์ดเข้ามาช่วยก่อสร้างผนังแทน ซึ่งจะใช้แรงงานน้อยลง โดยในส่วนของตราเพชรนั้น เรามีความพร้อมด้านการผลิตและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าว เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ตราเพชรและสร้างยอดขายให้เติบโตขึ้น” นายสาธิตกล่าว
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนสินค้าวัสดุก่อสร้างที่คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดีในปี 2556 ได้แก่ สินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคาคอนกรีตในรูปแบบลอนคู่และแบบเรียบ หลัง ซึ่งในช่วง 11 เดือนแรก ตราเพชรทำยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตขึ้น 10-15% โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการซื้อของผู้บริโภค ขณะที่กลุ่มสินค้าไม้สังเคราะห์ถือเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่น โดยมีอัตราเติบโต 15-20% โดยเฉพาะไม้ฝาที่นำมาใช้ในงานก่อสร้างมากขึ้น
“เรามองว่า การเติบโตของกระเบื้องคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ของตราเพชรนั้น มาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางขายผ่านร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่สินค้าสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งแบรนด์ตราเพชรมีความแข็งแกร่งและได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมสัดส่วนการขายจากร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 8-9% จากยอดขายทั้งหมด จากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายเพียงแค่ 2-3% เท่านั้น” นายสาธิต กล่าว