เนื้อหาวันที่ : 2012-12-11 08:15:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1826 views

เพ้ง เล็งขึ้นราคาLPGขาย24.82บาทต่อกก.ทั้งภาคขนส่ง-ครัวเรือน

แนวทางการปรับโครงสร้างราคา LPGทั้งระบบ โดยราคาแอลพีจีครัวเรือนและภาคขนส่งปี 2556 จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานได้ศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างราคา LPGทั้งระบบ โดยราคาแอลพีจีครัวเรือนและภาคขนส่งปี 2556 จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับภาคครัวเรือนจะปรับขึ้นอีก 6.69 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ด้านภาคขนส่งจะปรับขึ้น 3.44 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนภาคอุตสาหกรรมจะคงอยู่ในอัตราไม่เกิน 30.13 บาทต่อกิโลกรัม

 นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานก่อนสิ้นเดือน ธ.ค.2555 กรณีการปรับขึ้นราคาก๊าซ เพียงแต่จะเริ่มทยอยปรับเมื่อใดนั้นคงต้องขึ้นกับการพิจารณาความเหมาะสมจากคณะกรรมการที่กระทรวงพลังงานจัดตั้งขึ้นเพื่อเสนอความเห็นให้ กพช.พิจารณาเห็นชอบ

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นราคา LPG ภาคขนส่งและครัวเรือนอยู่ที่ราคาประมาณ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณมาจากการผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ที่ระดับราคาราว 550 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งสูงกว่าราคาควบคุมหน้าโรงแยกก๊าซฯในปัจจุบันที่อยู่ระดับ 333 ดอลลาร์ต่อตัน ทำให้การปรับราคา LPG ภาคครัวเรือนต้องปรับขึ้นอีกประมาณ 6 บาทต่อกิโลกรัม โดยทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 12 เดือน

 ส่วนการปรับราคา NGV นั้น ยืนยันว่า จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาจนกว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้จัดทำแผนสร้างสถานีบริการ NGV ให้เพียงพอกับความต้องการเสียก่อน ซึ่งอาจให้ PTT ลงทุนเองหรืออาจร่วมทุนกับเอกชนรายอื่นๆ ซึ่งหากมีแผนลงทุนที่ชัดเจนจึงจะอนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคา NGV ดังนั้น ในช่วงระหว่างที่ยังไม่ได้ทำแผนก็จะต้องแบกรับภาระขาดทุนไปก่อน


นอกจากนี้ ยังพร้อมที่หาข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยการชดเชยไม่เกิน 6 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งผู้ที่จะได้รับการสนับสนุนจะเป็นผู้มีรายได้น้อยประมาณ 4 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นครัวเรือนที่มีการใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนจำนวน 3,673,610 ครัวเรือน และครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 194,907 ครัวเรือน ขณะที่กลุ่มหาบเร่ แผงลอย และร้านค้า รัฐบาลจะมีการชดเชยให้ โดยจะอุดหนุนไม่เกิน 150 กิโลกรัม/เดือน หรือถัง 15 กิโลกรัม 10 ถัง โดยผลการสำรวจพบว่ามีปริมาณการใช้เพียงเดือนละ 130 กิโลกรัมเท่านั้น