ทยอยปรับราคาในเดือน ก.พ. 2556 การปรับราคาจะไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มรถบริการสาธารณะ ได้แก่ รถเมล์ รถสามล้อ รถแท็กซี่ รถบขส. รถตู้ ขสมก. เนื่องจากจะมีมาตรการอุดหนุนราคาให้ 2 บาท ต่อ กก.
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สรุปแนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) โดยมีแผนปรับขึ้นราคาจาก 10.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เป็น 13.28 บาท ต่อ กก. และจะเริ่มทยอยปรับราคาในเดือน ก.พ. 2556 การปรับราคาจะไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มรถบริการสาธารณะ ได้แก่ รถเมล์ รถสามล้อ รถแท็กซี่ รถบขส. รถตู้ ขสมก. เนื่องจากจะมีมาตรการอุดหนุนราคาให้ 2 บาท ต่อ กก.
โดยใช้บัตรเครดิตพลังงานเป็นส่วนลดราคาให้ และได้สั่งการให้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ไปทำแผนการขยายปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการรวมทั้งแก้ปัญหาปริมาณเอ็นจีวีขาดแคลน เพราะเท่าที่หารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถแท็กซี่ ไม่ขัดข้องเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีแต่ขอให้มีเอ็นจีวีอย่างเพียงพอ ไม่รอคิวนาน
สำหรับแนวทางการปรับราคาเอ็นจีวี ครั้งนี้ศึกษาไว้หลายรูปแบบบนพื้นฐานของข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และการกำหนดราคาเอ็นจีวีแบบราคาเดียวหรือ 2 ราคา แยกตามพื้นที่ตั้งของปั๊มเอ็นจีวีตามแนวท่อก๊าซและนอกแนวท่อเอ็นจีวี โดยกระทรวงพลังงานเลือกแนวทางที่เอ็นจีวีราคาถูกที่สุด คือการแยกต้นทุนแอลเอ็นจีออกจากต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติและเฉลี่ยราคาขายปลีกเอ็นจีวีเป็นราคาเดียว ซึ่งทำให้มีราคาขายปลีกเท่ากับ 12.41 บาทต่อ กก. รวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ราคาจำนหน่ายอยู่ที่ 13.28 บาทต่อ กก.