าะลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ลง 0.50 บาทต่อลิตร เหลือเก็บ 0.70 บาทต่อลิตร
กบง.เคาะลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ลง 0.50 บาทต่อลิตร เหลือเก็บ 0.70 บาทต่อลิตร หลังน้ำมันดีเซลตลาดโลกพุ่งไม่หยุด เพื่อเบรกไม่ให้ราคาเกิน 30 บาทต่อลิตรตามนโยบายรัฐบาล พร้อมปรับสูตรคำนวณราคาเอทานอลใหม่เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ อิงโมลาส 62% อิงมันสำปะหลัง 38% หนุนโครงการรับจำนำมัน
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.)วานนี้ (28 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาทต่อลิตรจากเดิมเก็บ 1.20 บาทต่อลิตรเหลือ0.70 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงดีเซลขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรตามนโยบายรัฐบาล
"น้ำมันตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าต่ำเพียง 1 บาทต่อลิตรกบง.จึงต้องลดการเก็บเงินกองทุนฯ เข้ามาช่วยเพื่อตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่วนอัตราการเก็บเงินน้ำมันอื่นๆยังคงเดิม ซึ่งผลการลดเก็บเงินฯ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายได้ลดลงจากเดิมวันละ68.33 ล้านบาทเหลือวันละ 41.63 ล้านบาทและฐานะกองทุนฯยังคงติดลบ 1.8 หมื่นล้านบาท" นายณอคุณกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคาเอทานอลใหม่เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนปริมาณตามนโยบายพลังงานกำหนดโดยอิงเอทานอลที่ผลิตจากโมลาส 62% และอิงเอทานอลจากมันสำปะหลัง 38% จากเดิมที่การซื้อขายจะเป็นไปอย่างเสรีและไม่ได้กำหนดสัดส่วน เนื่องจากรัฐบาลต้องการช่วยดูดซับผลผลิตของมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลโดยจะเริ่มมีผล 1 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป
และจะทดลองใช้ก่อนเบื้องต้น 3 เดือน คือ ธ.ค.2555-ก.พ.2556 ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวยังจะทำให้สะท้อนต้นทุนราคาเอทานอลที่แท้จริงของผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 โดยยอมรับว่าราคาเอทานอลสูตรเดิมจะมีราคาเฉลี่ยขณะนี้ที่ 20 บาทต่อลิตร เมื่อใช้สูตรใหม่จะเพิ่มเป็น20.25 บาทต่อลิตร ซึ่งต้นทุนดังกล่าวที่สุดคงจะผลักไปในราคาจำหน่ายให้กับผู้ค้าน้ำมันและผู้ค้าก็จะไปผลักให้กับผู้บริโภคตามสัดส่วนการผสมของเอทานอล
Thailandindustrycom_official
