ทิศทางราคาน้ำมันในไทยทะลุ 31 บาท/ลิตร หลังราคาน้ำมันสิงคโปร์ยังปรับสูงขึ้น  ด้านกระทรวงพลังงานระบุ ยังไม่มีแผนแทรกแซงราคา พร้อมเชื่อมั่นจะทำให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาเติมแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ปรับสูงขึ้นโดยตลอด โดยเฉพาะราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปิดตลาดไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ค.) ราคาน้ำมันได้ขยับขึ้นอีก โดยเบนซินปรับขึ้น 2.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยปรับมาอยู่ที่  92.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีเซลปรับขึ้น 0.81 เหรียญ/บาร์เรล ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 83.19 เหรียญ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปรับขึ้น 1.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ที่ 65.99 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ยังคงทรงตัวในราคาสูง ที่ 64.94 เหรียญ/บาร์เรล จากแนวโน้มเช่นนี้จึงเป็นที่คาดว่า หากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มราคาขายปลีกในไทยทั้งเบนซิน-ดีเซล อาจขยับขึ้นอีก โดยในส่วนของเบนซิน 95 หากขยับขึ้นครั้งนี้ จะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศทำสถิติสูงสุด หรือ นิวไฮ ที่ 30.79 บาท/ลิตร และตามทิศทางที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐจะกลับมาเดินเครื่องตามปกติ หลังมีการปิดซ่อมบำรุง หรือ ชัทดาวน์ หลายแห่งในเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้น แนวโน้มราคาเบนซินจะทรงตัวระดับสูงไปจนถึงเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นจะลดลง และมีโอกาสที่ราคาน้ำมันในไทยจะทะลุกว่า 31 บาท/ลิตร

ด้านนายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีนโนบายชัดเจน จะไม่เข้าแทรกแซงราคาน้ำมัน หรือใช้นโยบายปิดปั๊มน้ำมันเป็นช่วงเวลาอีก เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ช่วยให้ประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด ในขณะที่รัฐได้เร่งส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์เป็นทางเลือก ซึ่งมีราคาถูกกว่าเบนซิน 2.80-3.30 บาท/ลิตร ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเอทานอลล้นตลาดแล้ว ยังเป็นการลดการนำเข้าน้ำมันได้ด้วย โดยจากสถานการณ์แนวโน้มน้ำมันแม้มีทิศทางสูงขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน เพราะน้ำมันไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด

"แม้ราคาน้ำมันส่อแววสูงขึ้น แต่ไม่ถึงขึ้นใช้มาตรการฉุกเฉินเข้ามาแทรกแซงราคา โดยสิ่งที่ได้ดำเนินการในขณะนี้คือ การรณรงค์ประหยัดพลังงาน และโฆษณาส่งเสริมใช้แก๊สโซฮอล์ ซึ่งคาดว่าจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ประชาชนจะสนใจหันมาใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น" นายชวลิต กล่าว

บมจ.ปตท. รายงานว่า น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงจาก Trader และ Hedge Fund เทขายทำกำไรในตลาด Nymex ก่อนสัญญาน้ำมันดิบ WTI จะหมดอายุในวันที่ 22 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ Dated Brent และ Dubai ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับสำรองน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่อยู่ในระดับต่ำ ก่อนที่เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวในเดือน มิ.ย.นี้ กอปรกับโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุงและปิดฉุกเฉิน ขณะที่ปริมาณการบริโภคน้ำมันเบนซินของสหรัฐอยู่ในระดับสูง ประมาณ 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3 และจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน หรือ NIOC ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ราคาน้ำมันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้น หากโอเปกไม่เพิ่มกำลังการผลิต และประเทศผู้ผลิตนอกโอเปกมีแนวโน้มผลิตน้ำมันได้ในปริมาณที่ลดลง

ส่วนราคาเบนซินสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น เกิดจากข่าวบริษัท  Alliance Refining Company (ARC) ของไทย ต้องการนำเข้าเบนซินอย่างเร่งด่วน ปริมาณรวม 340,000 บาร์เรล ส่งมอบเดือน พฤษภาคม เนื่องจากโรงกลั่น Star Petroleum Refining กำลังกลั่น 150,000 บาร์เรล/วัน ประสบปัญหา Catalyst ขัดข้อง ทำให้ต้องปิดดำเนินการ Redisue Fluid Catalytic Cracker Unit เป็นเวลา 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม และจากตลาดคาดว่าประเทศในแถบตะวันออกกลางมีความต้องการนำเข้าเบนซินเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาดีเซลปรับตัวสูงขึ้นตามราคาปิดน้ำมันดิบวันก่อน และจากข่าวของศรีลังกาจะเพิ่มการนำเข้า. 

ที่มา : สำนักข่าวไทย