หนุนสร้างความโปร่งใสด้านจัดซื้อจัดจ้าง แก้ไขผลประโยชน์ทับซ้อน ยกระดับจริยธรรม
รัฐบาลเดินหน้าล้างคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐ ดึงหน่วยงานองค์กรอิสระ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการป้องกันการทุจริตจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ นักวิชาการและภาคประชาชน ระดมความคิดเห็นจัดทำมาตรการและกลไกการป้องกันปราบปรามการคอร์รัปชันในภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการคอร์รัปชัน เสนอกลไกสร้างความโปร่งใสด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การแก้ไขปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ปลูกฝังจริยธรรมคุณธรรม พร้อมจัดตั้งกองทุนปราบปรามคอร์รัปชัน เตรียมชงนายกรัฐมนตรี ประกาศใช้เป็นแผนแม่บท ล้างบางคอร์รัปชันให้หมดไปจากสังคมไทย
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 ณ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจากภาครัฐบาลมาเป็นประธานรับฟังความคิดเห็นการจัดทำร่างมาตรการและกลไกการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันในภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยมี รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นประธานโครงการฯ ซึ่งได้เชิญตัวแทนในหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการและภาคประชาชน เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นพร้อมกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันในภาครัฐฯ เพื่อจัดทำเป็นแผนแม่บทให้หน่วยงานภาครัฐนำไปปฏิบัติเพื่อลดปัญหาการคอร์รัปชัน
นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายภาครัฐบาลชุดปัจจุบัน ต้องการดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง โดยดึงทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในเรื่องดังกล่าวไปสู่แนวทางปฏิบัติ ทางรัฐบาลจึงได้เชิญผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการ และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการจัดทำมาตรการและกลไกป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันในภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการคอร์รัปชัน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นประธานโครงการฯ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และติดตามปัญหาการคอร์รัปชันในสังคมไทยมาโดยตลอด มาเป็นผู้ศึกษาแนวทางกำหนดมาตรการและกลไกการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐฯ เพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อลดการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ
“รัฐบาลชุดนี้มีเป้าหมายต้องการลดการคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นการบั่นทอนศักยภาพทางด้านขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และยังทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น การดำเนินโครงการนี้ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันมาตรการและกลไกการป้องกันการคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐฯ ที่มาจากการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนไปสู่ภาคปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาการคอร์รัปชันให้ได้” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน รศ. ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานโครงการฯ กล่าวว่า การดำเนินโครงการฯ ครั้งนี้ ยังได้เชิญหน่วยงานองค์กรอิสระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการป้องกันการทุจริตจากหน่วยงานภาครัฐ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนการศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการคอร์รัปชันของหน่วยงานภาครัฐ เช่น ปปช. ปปท. กพร. ก.พ. สตง. กรมบัญชีกลาง สคร. พร้อมศึกษาเปรียบเทียบแนวทางป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันของแต่ละประเทศ เพื่อจัดทำมาตรการกลไกป้องกันและการป้องกันการคอร์รัปชันให้แก่แต่ละหน่วยงานนำไปให้ข้าราชการนำไปปฏิบัติเพื่อป้องกันทุจริตได้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันจัดทำมาตรการกลไกการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันฯ แบ่งเป็น
1.แผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันสำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดยการแก้ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างให้โปร่งใส การติดตามการจัดเก็บรายได้ที่ไม่นำส่ง ลดการใช้ดุลยพินิจเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง พัฒนาการบรรจุแต่งตั้งเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง การแก้ไขผลประโยชน์ทับซ้อนและพัฒนาต้นแบบส่วนราชการ จังหวัดธรรมาภิบาล
2.แผนปฏิบัติป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่นสำหรับรัฐวิสาหกิจนั้น จะเน้นการสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง พัฒนาการบรรจุแต่งตั้งเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง การสร้างความโปร่งใสในการบริหารงานระหว่างฝ่ายนโยบายและฝ่ายจัดการ สร้างความเข้มแข็งในระบบการกำกับดูแล พัฒนาผู้นำธรรมาภิบาลและพัฒนาบุคลากรทางด้านจริยธรรม
3.แผนปราบปรามคอร์รัปชั่นสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น จะใช้มาตรการลงโทษทางสังคม การจัดทำประมวลจริยธรรมและการบังคับใช้ การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานในการปราบปรามคอร์รัปชัน สร้างมาตรฐานการตรวจสอบและให้ผู้บริหารแสดงทรัพย์สิน
4.แผนปฏิบัติป้องกันคอร์รัปชั่นสำหรับภาคประชาชนนั้น จะเน้นรณรงค์ปลูกฝั่งจริยธรรม คุณธรรมสาธารณ การเคร่งครัดการบังคับใช้กฎหมาย การปรับปรุงกฎหมายให้มีความเข้มข้น การจัดตั้งกองทุนสำหรับป้องกันปราบปรามคอร์รัปชันและพัฒนาต้นแบบองค์กรธรรมาภิบาล
“การจัดทำมาตรการครั้งนี้ ถือเป็นแนวคิดใหม่ในการต่อสู้กับคอร์รัปชัน ที่ดึงทุกภาคส่วนในสังคมมาร่วมกันออกแบบเครื่องมือให้แก่ข้าราชการในแต่ละหน่วยงาน นำไปใช้ปฏิบัติเพื่อลดการทุจริตในแต่ละหน่วยงานภาครัฐ โดยเราจะนำมาตรการที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ไปเสนอให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อประกาศให้ใช้กับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยปิดช่องการคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐลดลงได้” รศ.ดร.สังศิต กล่าว