สภาพคล่องเพียงพอ ไม่ล้นเหลือมากเกินไป ไม่มีปัญหาการว่างงาน ส่งออกยังขยายตัวได้ และยังเชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5%
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ "ตลาดทุนไทย ภายใต้โลกการเงินเสรี" ในงานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี SET in the City จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 22-25 พ.ย. ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลท.ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 22% แม้ไทยต้องประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อช่วงปลายปี 2554 แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ตลท.ก็ให้อัตราผลตอบแทนเกิน 26% ไปแล้ว จึงยืนยันว่า ตลท.ไทยมีความมั่นคง ราคาหุ้นมีความผันผวนน้อยภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหา เห็นได้จากการจ่ายผลตอบแทนแก่นักลงทุนเกินระดับ 1 แสนล้านบาทต่อเนื่องมานาน 2 ปี ดังนั้น ตลท.จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน โดยผู้ที่สนใจควรมีความระมัดระวังและศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อไทยมากนัก เนื่องจากเป็นปัญหาเรื่องนโยบายการคลังภายในของสหรัฐ แม้การลดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐอาจทำให้เกิดปัญหาการหมุนเวียนของเงินในระบบติดขัด แต่สหรัฐยังมีมาตรการทางการเงินที่อัดฉีดปริมาณเงิน (คิวอี 3) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงเชื่อว่ามาตรการต่างๆ จะช่วยไม่ให้เศรษฐกิจตึงตัวเฉียบพลัน ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่งมั่นคง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง อัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพ สภาพคล่องเพียงพอ ไม่ล้นเหลือมากเกินไป ไม่มีปัญหาการว่างงาน ส่งออกยังขยายตัวได้ และยังเชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5%
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในระยะต่อไป ซึ่งมองว่าตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงขาขึ้นไปอีก 2 ปี จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดีในระดับที่น่าพอใจ หรือเงินที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกจะหมดลง โดยมองดัชนีหุ้นไทยปีหน้าอยู่ที่ 1,450-1,500 จุด ถ้าสถานการณ์การเมืองในประเทศไม่เลวร้าย จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนรัฐบาล นอกจากนี้ต่างชาติยังจับตาดูการดำเนินนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล หากทำได้จริงจะเรียกความมั่นใจนักลงทุนได้มากขึ้น แต่ถ้าทำไม่ได้จริงจะทำให้ความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติลดลงแน่นอน