สินเชื่อบ้านนำลิ่ว-RMF/LTF ขายกระหน่ำ มีผู้เข้าชมงานกว่า 70,000 คน สินเชื่อบ้านแรงสุด 9.2 พันล้านบาท สินเชื่อเอสเอ็มอี 3 พันล้านบาท
งานมหกรรมการเงิน เชียงใหม่ ครั้งที่ 7 MONEY EXPO Chiang Mai 2012 ยอดธุรกรรม 1.4 หมื่นล้านบาท มีผู้เข้าชมงานกว่า 70,000 คน สินเชื่อบ้านแรงสุด 9.2 พันล้านบาท สินเชื่อเอสเอ็มอี 3 พันล้านบาท กระหน่ำขายกองทุน LTF/RMF กว่า 400 ล้านบาท สินเชื่อบุคคลทะลุ 300 ล้านบาท ประกันชีวิต/ภัย 300 ล้านบาท
นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ การเงินธนาคาร ในฐานะประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo เชียงใหม่ เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 7 Money Expo Chiang Mai 2012 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อ วันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2555 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่แอร์พอร์ต ภายใต้แนวคิด “อนาคตไร้ขีดจำกัด : Unlimited Future” ประสบความสำเร็จอีกปี โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานกว่า 70,000 คน และมีธุรกรรมภายในงานยอดเงินรวมกว่า 14,244.07 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการทางการเงินของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานทั้งธนาคาร, บริษัทการเงิน, บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทผู้ค้าทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส และบริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย รวมกว่า 20,857 ราย
นายสันติกล่าวว่า สินเชื่อบ้านยังคงเป็นบริการทางการเงินที่ผู้เข้าชมงาน สมัครใช้บริการสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง รวมวงเงิน 9,244.60 ล้านบาท เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และเขตภาคเหนือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจเชียงใหม่ และภาคเหนือ ที่เติบโตสูงมากในปีนี้ รวมทั้งเป็นผลจากแคมเปญโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำพิเศษเริ่มตั้งแต่ 0% นาน 9 เดือนดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการ
“ธนาคารแข่งขันนำเสนอแคมเปญสินเชื่อบ้านที่จูงใจ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ นำเสนอสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน ธนาคารธนชาติให้ดอกเบี้ย 0% นาน 8 เดือน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน ส่วนสินเชื่อบ้านธนาคารกรุงไทย ให้ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 10 เดือน ขณะที่ธนาคารกรุงเทพมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ และหากกู้ซื้อบ้านกับธนาคารทีเอ็มบีไม่ต้องผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ย 2 งวดแรก นอกจากนี้บางธนาคารได้ทำการ pre-sales ล่วงหน้า 1 เดือน รวมไปถึงการสมัครใช้บริการสินเชื่อบ้าน ธนาคารยังไม่คิดค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน ตลอดจนยังมอบของสมนาคุณอีกมากมาย“
ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมออกบูธในงาน ได้ให้ข้อมูลด้วยว่า ภาวะน้ำท่วมในปี 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ยังคงมีความต้องการที่จะมีบ้านหลังที่สองในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงปี 2555 ส่วนความต้องการบ้านหลังแรกมาจากกลุ่มผู้บริโภคที่เริ่มทำงานได้ 2-3 ปี และมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ขณะเดียวกันในจังหวัดเชียงใหม่มีการขยายลงทุนและมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยจากประชาชนทั่วไปที่เพิ่มขึ้น ยังทำให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่นำทรัพย์รอการขาย(NPA) มานำเสนอภายในงานในราคาพิเศษ มียอดซื้อ NPA สูงถึง 118.10 ล้านบาทอีกด้วย
สินเชื่อเอสเอ็มอีเป็นบริการทางการเงินที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสอง โดยมีมูลค่า 3,004.07 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมต้องการเงินกู้ที่มีต้นทุนต่ำ จึงมาสมัครใช้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอี เพื่อให้ได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำพิเศษจากธนาคารที่เข้าร่วมงาน นายสันติกล่าวว่า ผู้เข้าชมงานยังคงให้ความสนใจกับการลงทุนในกองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพ (RMF ) และ การลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อต้องการนำเงินลงทุนไปใช้ในการลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2555 ประกอบกับสามารถซื้อกองทุนผ่านบัตรเครดิตได้ ทำให้การซื้อกองทุนในงานมีความสะดวกสบาย และหลายธนาคารยังนำเสนอโปรโมชั่นเด่น Cash Back พร้อมรับคะแนนสะสมเมื่อซื้อกองทุนผ่านบัตรเครดิต อีกทั้งยังได้รับของสมนาคุณ ของรางวัลมากมาย ส่งผลให้ยอดลงทุนในกองทุนรวมในงานสูงเป็นอันดับสาม รวมมูลค่า 451.34 ล้านบาท
ส่วนบริการทางการเงินที่มียอดธุรกรรมสูงเป็นอันดับสี่ คือสินเชื่อบุคคล โดยมียอดธุรกรรมจำนวน 324.82 ล้านบาท เนื่องจากสถาบันการเงินและบริษัทการเงิน สามารถพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ทันทีภายในงาน พร้อมนำเสนอดอกเบี้ยต่ำ 0% และยังมีระยะเวลาผ่อนนานกว่า 7 เดือน นอกจากนี้บางธนาคารยังนำเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อบุคคลแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่นานสูงสุด 1 ปี
นายสันติกล่าวว่า แบบประกันชีวิตระยะสั้นไม่เกิน 5 ปี ที่มีอัตราผลตอบแทนสูงได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการออมเงินผ่านประกันชีวิต เนื่องจากเป็นการออมที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า ขณะเดียวกันการทำประกันวินาศภัยก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานจำนวนมากด้วย ส่งผลให้การทำประกันชีวิตและประกันภัย รวมทั้งการซื้อประกันผ่านแบงก์แอสชัวรันซ์ในงานคิดเป็นทุนประกัน 300.83 ล้านบาท