เนื้อหาวันที่ : 2012-11-13 16:20:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2714 views

หม่อมอุ๋ยห่วงจำนำข้าวดันหนี้อีก 7 ปีพุ่ง 61% ส่งออกเจ๊ง-รายเล็กปิดกิจการ

ปีหน้าประกาศรับจำนำข้าวอีกประมาณ 33 ล้านตัน ถ้ารัฐบาลไม่ปรับปรุงโครงการ ปริมาณข้าวจำนวนดังกล่าวจะทำให้ขาดทุนประมาณ 2.1 แสนล้านบาท

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.คลัง เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร ตามคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ประเมินโครงการรับจำนำข้าวนาปรังและนาปี 2554/55 สิ้นสุด 31 พ.ค.2555 วงเงินรับซื้อ 1.06 แสนล้านบาท รัฐบาลจะขาดทุน 3.2 หมื่นล้านบาท นั้นข้อเท็จจริงข้าวยังขายไม่หมด คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี กว่าจะขายข้าวในโกดังรัฐบาลหมด แต่ระหว่างนี้จะมีต้นทุนค่าเก็บรักษาข้าว ค่าเสื่อม ค่าดอกเบี้ย และค่าบริหารจัดการอื่นๆ ส่งผลให้การรับซื้อข้าว 6.9 ล้านตัน รัฐบาลจะขาดทุน 45,000 ล้านบาท
          ทั้งนี้ ปีหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศรับจำนำข้าวอีกประมาณ 33 ล้านตัน ถ้ารัฐบาลไม่ปรับปรุงโครงการ ปริมาณข้าวจำนวนดังกล่าวจะขาดทุนประมาณ 2.1 แสนล้านบาท จะทำให้หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ช่วงสิ้นปี 2556 อยู่ที่ 49.9% จาก 42.7% ในเดือนก.ค.2555 ซึ่งยังไม่นับรวมหนี้ของรัฐบาลที่ค้างจ่ายองค์กรอื่นๆ ที่ซ่อนไว้
          ขณะเดียวกันรัฐบาลจะขอออกพันธบัตรกู้หนี้นอก งบประมาณ 3 เรื่อง คือ 1.กองทุนประกันภัยวงเงิน 50,000 ล้านบาท 2.งบประมาณเพื่อการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ 3.โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนใหม่ 30% เมื่อนำเงินลงทุน 3 ส่วนนี้มารวมกัน หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะขยับไปถึง 53.65% หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป แล้วขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาท หนี้สาธารณะของประเทศในปี 2562 จะขยับขึ้นไปถึง 61% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าวิกฤต แม้สถานการณ์จะไม่เหมือนยุโรปเสียทีเดียว แต่จะใกล้เคียงกันเข้าไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาไทยมีดีที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีต่ำ แต่จากนี้จะเร็วและกระทบความเชื่อมั่นของประเทศ กระทบค่าเงินบาท การทำโครงการเดียวขาดทุนเป็นแสนล้านบาท ตนคงเอาหน้ามุดดิน แต่เขาเอาสีข้างเข้าถู หรืออันที่จริงเอาทั้งตัวเข้าถูโดยไม่อายเลย
          ด้านนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการกิตติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า กังวลเรื่องวิธีการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่สลับซับซ้อนมาก เดิมใช้บริษัทเดียวระบายล็อตใหญ่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ใช้วิธีบริษัทนายหน้า กินส่วนต่าง ไม่ต้องมีแบงก์การันตี คนที่ได้ประโยชน์คือนายหน้าใครก็ไม่รู้
          นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวในราคาสูงของรัฐบาล บิดเบือนราคาตลาดมากกว่า 50% ทำให้ผู้ส่งออกขายข้าวไม่ได้เลย สถานะบริษัทผู้ส่งออกไทยจึงอยู่ในภาวะค่อนข้างอันตราย หลายบริษัทโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก มีแนวโน้มปิดกิจการ ส่วนรายใหญ่ก็หันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในกัมพูชาและพม่า นำข้าวมาส่งออกแข่งกับประเทศไทยเอง อีกไม่นานผู้ส่งออกข้าวไทยจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ
          "มีข่าวว่ารัฐบาลขายข้าวแบบจีทูจีให้จีน 5 ล้านตัน ทั้งที่แต่ละปีจีนนำเข้าข้าวปีละ 1-1.5 ล้านตันเท่านั้น ผมก็พูดไม่ถูกเหมือนกันว่าขายกันยังไง ลักษณะยังไง" นายชูเกียรติกล่าว