บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งในประเทศไทย ด้วยแนวคิด “Power of Imaging” ชูเทคโนโลยีไฮเอนด์สร้างความแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าสร้างตลาดใหม่  นำทัพโดยกล้องดิจิตอลระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเซ็นเซอร์แบบ      ฟูลเฟรม (Full Frame) ขนาด 35 ม.ม. พร้อมกันถึง 3 รุ่น อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพความคมชัดระดับ     มืออาชีพ ประกอบด้วย กล้อง α99 (อัลฟ่า A99) กล้องวิดีโอเปลี่ยนเลนส์ได้ Handycam® NEX-VG900 และกล้อง Cyber-shot™ RX1 รวมทั้งกล้องมิเรอร์เลส NEX-6 และ NEX-5R ที่รองรับการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย Wi-Fi รวมทั้งชุดเลนส์ และอุปกรณ์เสริมมากมาย พรั่งพร้อมด้วยกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างสีสันความคึกคักให้แก่ตลาด ไปพร้อม ๆ กับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ และเพิ่มมิติแห่งวงการถ่ายภาพ อาทิ การเปิด     ไมโครไซท์ Alpha Café ชุมชนเพื่อแฟนกล้องอัลฟ่า และคนรักการถ่ายภาพ ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงโครงการประกวดถ่ายภาพทั้งในระดับมหาวิทยาลัย และระดับโลก อย่าง อัลฟ่า ยูนิเวอร์ซิตี้ แคมป์ และโครงการประกวดถ่ายภาพระดับโลก Sony World Photography Awards 2013 – Thailand National Award

มร. โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า “โซนี่ ยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้ง ภายใต้กลยุทธ์ ‘Power of Imaging’ ด้วยการมุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ผ่านกิจกรรมสื่อสารการตลาดอย่างครอบคลุม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดกล้องในประเทศไทยในปีนี้ โดยเฉพาะกล้องดิจิตอลในกลุ่มไฮเอนด์คุณภาพสูง ซึ่งมีระดับราคาตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปนั้น ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนในตลาดมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ (เชิงมูลค่า) แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพ โซนี่จึงได้วางกลยุทธ์ในการสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการกล้องคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ แต่มีความคล่องตัวในการใช้งาน โดยได้ส่งผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ อย่างเซ็นเซอร์แบบฟูลเฟรมพร้อมกันถึง 3 รุ่น ประกอบด้วยกล้องดีเอสแอลที α99 (อัลฟ่า 99), กล้อง Cyber-shot™ RX1 และกล้องวิดีโอ Handycam® NEX-VG900E โดยกล้องในกลุ่ม Full Frame ทั้ง 3 รุ่นจะได้รับประกันเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี พร้อมกันนี้ ยังมีกล้องดิจิตอลมิเรอร์เลสที่มาพร้อมเทคโนโลยี WiFi อีก 2 รุ่นคือ NEX-6 และ NEX-5R ซึ่งเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งของโซนี่ในปีนี้ และนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพให้แก่ลูกค้าของเรา”
 
ขณะเดียวกัน มร. มาซากิ โคจิม่า รองประธาน และผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มธุรกิจดิจิตอลอิมเมจจิ้ง โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ที่ได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ยังได้เปิดเผยถึงแนวโน้ม และทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ โซนี่ว่า “โซนี่ได้มุ่งมั่นคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อคงความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาดดิจิตอล อิมเมจจิ้งไว้ โดยได้วางกลยุทธ์หลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีและชิ้นส่วนประกอบสำคัญที่โซนี่เป็นผู้คิดค้นขึ้น อาทิ อิมเมจเซ็นเซอร์ อิมเมจโปรเซสเซอร์  และช่องมองภาพอิเล็คทรอนิกส์ เป็นต้น เราจึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว และรองรับการใช้งานได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด โดยในวันนี้ โซนี่พร้อมแนะนำผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ได้พัฒนาขึ้น นั่นคือ เซ็นเซอร์ฟูลเฟรม CMOS Image Sensor ขนาด 35 ม.ม. ซึ่งถือเป็นก้าวย่างสำคัญทางด้านกลยุทธ์ในการเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าของเรา นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเติมลูกเล่นใหม่ ๆ เสริมเข้าไปเพื่อการใช้งาน   ที่สะดวกสบาย และสนุกสนานยิ่งขึ้น อาทิ การเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ผ่าน Wi-Fi หรือ การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาไว้ในกล้องเพื่อเพิ่มลูกเล่นในการถ่ายภาพ นับเป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น”

ผลิตภัณฑ์เด่นกลุ่มดิจิตอล อิมเมจจิ้ง รุ่นใหม่ประกอบด้วย

• กล้อง Alpha SLT-A99 full-frame Translucent Mirror
กล้อง α99 เป็นกล้องดีเอสแอลทีตัวแรกของโลก ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม 35mm Exmor CMOS image พร้อมความละเอียดถึง 24.3 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมเทคโนโลยีกระจกสะท้อนภาพแบบ Translucent Mirror ให้ภาพคมชัดเต็มตา เหนือระดับด้วยคุณสมบัติหนึ่งในกล้องดีเอสแอลทีที่มีน้ำหนักเบาที่สุด นอกจากนี้ α99 ยังมาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ Dual AF System ที่ประสานการทำงานของเซ็นเซอร์ 2 ชุด จึงสามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำสูง

กล้องอัลฟ่า α99 ยังมาพร้อมกับระบบบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงแบบ Full HD1080 ระดับเดียวกับ กล้องถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับมืออาชีพและกล้องถ่ายวิดีโอระดับไฮเอนด์ และด้วยเทคโนโลยีฟูลเฟรมระดับไฮเดฟินิชั่น (50p/25p switchable to 60p/24p) ช่วยให้การถ่ายภาพด้วยระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น บันทึกเสียงได้อย่างคมชัด และเพิ่มคุณสมบัติในการบันทึกด้วย dual media card ได้อย่างราบรื่น กล้อง α99 A-mount เปลี่ยนเลนส์ได้ มาพร้อมเลนส์ 300mm F2.8 G SSM II (SAL300F28G2) ช่วยให้การถ่ายภาพระยะไกลมีความสว่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น และการออกแบบระบบป้องกันฝุ่นละอองและความความชื้นสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ราคา 91,990 บาท

• กล้องดิจิตอล Cyber-shot™ RX1 full-frame compact digital camera
นับเป็นครั้งแรกของไลน์อัพกล้องดิจิตอลคอมแพคที่มาพร้อมเทคโนโลยีฟูลเฟรม ใน Sony Cyber-shot™ RX1 กล้องขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ Exmor CMOS ความละเอียดถึง 24.3 ล้านพิกเซล เทียบเท่ากับฟูลเฟรมในกล้องดีเอสแอลอาร์ แต่มีขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบากว่า นอกจากนี้กล้อง Sony Cyber-shot™ รุ่นใหม่ล่าสุด ยังมาพร้อมกับเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียว Carl Zeiss

Sonnar T* 35mm F2 คุณภาพสูง ให้ทั้งการถ่ายภาพคน ภาพสถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ภาพบรรยากาศตามท้องถนน สวยสมจริงในทุกมุมมอง เหมาะสำหรับนักเดินทางตัวจริง พร้อมวางจำหน่ายกลางเดือนธันวาคม ราคา 99,990 บาท

• กล้องวิดีโอ Handycam® NEX-VG900E full-frame interchangeable lens camcorder
สัมผัสประสบการณ์เหนือจินตนาการแบบเต็มตา ด้วยกล้องวิดีโอระดับไฮเดฟินิชั่น Handycam® NEX-VG900E คุณภาพสูง มาพร้อมออปชั่นการถ่ายภาพให้เลือกอีกมากมาย NEX-VG900E กล้อง Handycam® ตัวแรกที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม 35mm และสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเลนส์ E-mount และ A-mount รวมไปถึงเลนส์คุณภาพสูงอย่าง Carl Zeiss เลนส์ จากโซนี่ และด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ Exmor CMOS ความละเอียดถึง 24.3 ล้านพิกเซล ทำให้ NEX-VG900E รับภาพคมชัดเต็มตากว่ากล้องวิดีโอธรรมดาถึง 40 เท่า เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ราคา 109,990 บาท

• กล้อง NEX-6 และ NEX-5R 
ไลน์อัพกล้อง NEX ของโซนี่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โซนี่จึงส่ง NEX-6 ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ การตอบสนองที่รวดเร็ว และการทำงานที่เทียบเท่ากับกล้องดีเอสแอลอาร์มาไว้ในกล้องมิเรอร์เลสขนาดพกพา พร้อมด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ APS-C sized Exmor APS HD CMOS ความละเอียดถึง 16.1 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง BIONZ เพื่อภาพสวยคมชัด แม้การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ด้วยการตั้งค่าความไวแสงได้สูงถึง ISO 25600 นอกจากนี้ NEX-6 ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องรุ่นล่าสุด อย่าง NEX-5R โดยทั้งสองรุ่น มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วอย่าง Fast Hybrid AF system พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย ทั้งกล้อง NEX-6 และกล้อง NEX-5R เป็นกล้องดิจิตอลเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวแรกจากโซนี่ที่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อความสะดวกในการแชร์ภาพโปรด หรือเก็บไฟล์ภาพ และยังสามารถส่งไฟล์ภาพหรือไฟล์วิดีโอแบบไร้สายไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยมีรายละเอียดราคาดังนี้

นอกจากนี้ ทางโซนี่ ยังเตรียมวางจำหน่ายเลนส์ E-Mount เพิ่มเติมอีก 3 รุ่น คือ เลนส์ E 10-18mm F4 OSS, E 35mm F1.8 OSS และ E 16-50mm F3.5 – 5.6 OSS โดยจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ถึงเดือนมกราคม ศกหน้า

นอกเหนือจากความล้ำหน้าของเทคโนโลยีดิจิตอล อิมเมจจิ้งใหม่ล่าสุด และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยจากโซนี่ ซึ่งพร้อมรองรับทุกรูปแบบการใช้งาน โซนี่ยังเตรียมจัดกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดอีกมากมาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด อาทิ พัฒนาช่องทางสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านทางออนไลน์ กิจกรรมโรดโชว์ กิจกรรมประกวดถ่ายภาพระดับโลก การจัดทริป และ    เวิร์คชอปการถ่ายภาพให้แก่ลูกค้าโซนี่ รวมทั้งการพัฒนามาตรฐานด้านการขายและบริการ โดยในปีนี้  ได้เปิดบริการ Premium Service ขึ้นโดยให้บริการทำความสะอาดกล้องอัลฟ่าและเลนส์แบบเร่งด่วนภายใน 1-3 ชั่วโมง รวมทั้งการให้บริการคำปรึกษา และสอนการใช้งานผลิตภัณฑ์แบบตัวต่อตัวให้แก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายอีกด้วย

Alpha Café
ไมโครไซต์ Alpha Café สำหรับลูกค้าและผู้ใช้งานกล้องโซนี่อัลฟ่า สามารถเข้าไปหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ และเป็นคอมมูนิตี้ของเหล่าสาวกโซนี่ให้สามารถมาแชร์ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือทิปในการใช้กล้องโซนี่ เพื่อการสร้างสรรค์ประสบการณ์ในโลกดิจิตอล อิมเมจจิ้ง ให้กับ    ผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://dslr.sony.co.th

Alpha University Camp
โซนี่ ไทย ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพ และประกวดภาพถ่ายในระดับมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมเวิร์คชอปให้ความรู้ด้านการถ่ายภาพ และเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาได้ฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะจากช่างภาพมืออาชีพที่จะมาร่วมให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ อาทิ คุณณิการ์ กรีพร้อม ช่างภาพแฟชั่นชื่อดังที่ติด 1 ใน 4 ของ The Newcomer Female Photographers of South East Asia มีประสบการณ์ถ่ายภาพโฆษณาทั้งในและต่างประเทศ และถ่ายภาพแฟชั่นให้กับนิตยสารชั้นนำมากมาย คุณมนู มนูกุลกิจ ช่างภาพ Still Life มืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทย และคุณเกรียงไกร ไวยกิจ ช่างภาพชื่อดังที่คว้ารางวัลด้านการถ่ายภาพ และได้ร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวดภาพถ่ายระดับชาติมากมาย โดยในปีนี้มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมถึง 12 สถาบันทั่วประเทศ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์(วิทยาเขตเพาะช่าง) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2555 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2556 โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมชมงาน Sony World Photography Awards 2013 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รวมทั้งกล้องอัลฟ่า A77 พร้อมอุปกรณ์เสริม

Sony World Photography Awards 2013 – Thailand National Award
พร้อมกันนี้ โซนี่ ยังได้จัดโครงการประกวดถ่ายภาพ Sony World Photography Awards 2013 - Thailand National Award ขึ้นเป็นครั้งแรก สำหรับโครงการ Sony World Photography Awards หรือ SWPA เป็นโครงการประกวดถ่ายภาพระดับโลก ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักถ่ายภาพ  ทั่วโลก ทั้งในระดับมืออาชีพและสมัครเล่น ได้ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดแข่งขันกันในระดับนานาชาติ ดังนั้นในปีนี้ทางโซนี่ได้จัดกิจกรรม SWPA ในระดับประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสและส่งเสริมให้นักถ่ายภาพชาวไทย ทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นได้ฝึกฝนทักษะ และแสดงผลงานแข่งขันกับช่างภาพจากทั่วโลก โดยผลงานของผู้ชนะในประเทศไทยจะถูกส่งเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติในส่วนของ Open Category ของงาน Sony World Photography Awards 2013 โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับรางวัล อาทิ กล้องอัลฟ่า ฟูลเฟรม A99 (SLT-A99) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss Vario Sonnar T* 24-70mm. F2.8ZA SSM, ทริปเดินทางเข้าร่วมงานมอบรางวัล Sony World Photography Awards Gala Ceremony ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือนเมษายน 2556 , สิทธิพิเศษเข้าร่วมชมงาน World Photo London Festival และผลงานที่ชนะจะได้รับการจัดแสดงทั้งในนิทรรศการ World Photo London และ บนเว็บไซต์ www.worldphoto.org ด้วย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมประกวดในโครงการ Sony Photography Awards 2013 สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 มกราคม 2556 ยกเว้นประเภท Professional Competition ที่สามารถส่งผลงานได้ถึงวันที่  9 มกราคม 2556 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกาศผลในวันที่ 19 มีนาคม 2556 ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่ http://www.worldphoto.org/about-the-sony-world-photography-awards/national-award/thailand/-1/

สำหรับโครงการ Sony World Photography Awards จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2007 โดย World Photography Organisation (WPO) นับเป็นเป็นเวทีการประกวดถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่ และได้รับการยอมรับในวงการช่างภาพทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักถ่ายภาพที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานจากแรงบันดาลใจได้อย่างลงตัว โดยในปี 2012 มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 112,000 ภาพ จาก 171 ประเทศ

สำหรับผลิตภัณฑ์ดิจิตอล อิมเมจจิ้งรุ่นใหม่ จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เป็นต้นไป พร้อมเตรียมให้ผู้สนใจได้ทดลองประสิทธิภาพอย่างใกล้ชิดในงาน Photo Fair ซึ่งจะจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม ศกนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือ เยี่ยมชม www.sony.co.th