เนื้อหาวันที่ : 2012-11-03 14:04:50 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2939 views

ปตท.เปิดโฉมปั๊มใหม่นำร่อง สปป.ลาว ปั้นแบรนด์ค้าปลีก PTT บุกอาเซียนรับเออีซี

เตรียมขยายเพิ่มเป็น 60 แห่ง ในปี 2560 พร้อมปั้นแบรนด์ ปตท. ขึ้นแท่นระดับชั้นนำในอาเซียน รองรับการขยายลงทุนเปิดเสรี เออีซี ปี 2558

ปตท. เปิดปั๊มน้ำมันโฉมใหม่ บริการครบวงจรแห่งแรก ใน สปป.ลาว ด้วยรูปแบบ PTT Life Station ตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ เตรียมขยายเพิ่มเป็น 60 แห่ง ในปี 2560 พร้อมปั้นแบรนด์ ปตท. ขึ้นแท่นระดับชั้นนำในอาเซียน รองรับการขยายลงทุนเปิดเสรี เออีซี ปี 2558

บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)ได้เปิดสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ณ หนองแต่ง กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ โดยมี ดร. นาม วิยะเกด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว และ ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธาน สถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ถือเป็นสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบ Platinum ตามแนวคิด PTT Life Station แห่งแรกใน สปป.ลาว และในต่างประเทศ เพื่อสร้างแบรนด์ ปตท. ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในภูมิภาค รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มอาเซียนถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการขยายธุรกิจเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำที่ ปตท. ได้วางไว้ การเปิดสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ตามแนวคิด PTT Life Station ซึ่งประสบความสำเร็จมากในประเทศไทยขึ้นที่ สปป.ลาว ถือเป็นการนำร่องการลงทุนด้านค้าปลีกน้ำมันของ ปตท.ไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่ง สปป.ลาว นับเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีความได้เปรียบในการเป็น Land Link เนื่องจากมีทำเลที่เชื่อมกับประเทศอื่น ๆทั้งเวียดนาม กัมพูชา และจีน ซึ่งเศรษฐกิจกำลังมีอัตราการเติบโตที่สูง โดยเฉพาะจีน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรถึง 1,500 ล้านคน นอกจากนี้ ปตท. ยังสนใจลงทุนในประเทศที่ยังมีตลาดที่สามารถเติบโต อาทิ พม่าและฟิลิปปินส์อีกด้วย

ปตท.มีแผนที่จะลงทุนค้าปลีกน้ำมันในอาเซียนระยะ 5 ปีแรก (ปี 2555-2559) ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยมีแผนขยายปั๊มใน สปป. ลาว จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 แห่งเป็น 60 แห่งภายในปี 2560 ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอันดับที่ 2 จากปัจจุบันมียอดขาย 150 ล้านลิตรต่อปี หรือมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 13% หรืออยู่ที่ 3 รองจากบริษัทเชื้อไฟลาวและปิโตรเวียดนาม

ดร.ไพรินทร์กล่าวว่า ปตท.มีนโยบายที่จะไปลงทุนธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในอาเซียนนับจากนี้ไปอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายจะต้องเป็น1 ใน 3 อันดับแรกของแบรนด์ค้าปลีกน้ำมันในประเทศนั้นๆ ซึ่งไม่ได้มองแค่การทำตลาดน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่นหากแต่ยังมองค้าปลีกอื่นที่จะไปทำตลาดพร้อมกับสถานีบริการน้ำมัน เช่น ร้าน Café Amazon ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ เป็นต้น

สำหรับสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่หนองแต่งนี้ ถือเป็นสถานีบริการน้ำมันครบวงจรรูปแบบ PTT Life Station หรือ “สถานีเติมความสุข” แห่งแรกที่ ปตท. ดำเนินการนอกประเทศไทย และถือเป็นแห่งแรกใน สปป.ลาว ซึ่งไม่เพียงแต่จะให้บริการผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพ ด้วยการบริการที่มีมาตรฐานเดียวกับสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในประเทศไทยแล้ว ยังสามารถเป็นจุดแวะพักเพื่อเติมความสุขสำหรับผู้เดินทางด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านค้าครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ศูนย์บริการล้างอัดฉีดและตรวจเช็คระบบแอร์รถ และระบบการควบคุมตู้จ่ายน้ำมันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานจากประเทศไทย รวมทั้ง ร้าน กาแฟอเมซอน (Cafe Amazon) จากเมืองไทย รวมทั้งยังมีร้านค้าและบริการที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น อาทิ บริการด้านการเงินและร้านค้าสะดวกซื้อ เป็นต้น

นอกจากนี้ ปตท. ยังให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วยการนำโครงการจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้ามาปรับใช้ที่สถานีบริการแห่งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกหญ้าแฝกเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์และบำรุงดิน และการติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำในสระด้านหน้าสถานีบริการซึ่งถือเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางในต่างประเทศ โดย สปป.ลาวเป็นประเทศที่ 4 ที่ได้นำกังหันน้ำชัยพัฒนาไปติดตั้ง และ ปตท. ยังได้มอบกรวยยางจราจรเพื่อสนับสนุนการจัดการจราจรในนครเวียงจันทน์อีกด้วย