เพิ่มสมรรถนะในการติดตามผล ควบคุม และซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า สนับสนุนลูกค้ามีผลิตผล สร้างรายได้ และเชื่อมต่อกับสายส่งอย่างเต็มประสิทธิภาพ
จากภาพ: ศูนย์ปฏิบัติการชั้นนำระดับโลกแห่งใหม่ของเฟิร์ส โซลาร์ มีศักยภาพในการติดตามผลและควบคุมการทำงานของโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ห่างไกล ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบการจำหน่ายไฟฟ้าและโครงข่ายอื่นๆ ของลูกค้าได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ
เฟิร์ส โซลาร์ อิงค์ (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแดคว่า FSLR) ประกาศเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการใหม่ชั้นนำระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเมซา มลรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยมีศักยภาพในการติดตามผลและควบคุมการทำงานของโรงไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้โครงการ Operations and Maintenance (O&M) ของเฟิร์ส โซลาร์ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบการจำหน่ายไฟฟ้าและโครงข่ายอื่นๆ ของลูกค้าได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ ภายในศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าว ติดตั้งระบบการคาดการณ์และการวิเคราะห์การผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเฟิร์ส โซลาร์ พร้อมด้วยระบบควบคุมและตรวจสอบการทำงานของโรงไฟฟ้าอันล้ำสมัย เพื่อพัฒนาระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าให้มีปริมาณสูงสุด และลดต้นทุนในการบำรุงรักษา ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกสามารถเชื่อมต่อกับระบบสายส่งไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ระบบการจ่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพเพิ่มยิ่งขึ้น
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ดังกล่าวเป็นศูนย์ปฏิบัติการรุ่นที่ 2 ที่มีคุณลักษณะตรงตามมาตรฐานของสถาบัน North American Electric Reliability Corporation (NERC) ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับขยายได้เพื่อรองรับเครือข่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้โครงการ O&M ที่ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ปัจจุบัน เฟิร์ส โซลาร์เป็นผู้ดูแลและควบคุมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ลูกค้าจำนวน 14 แห่ง มีกำลังการผลิตสูงสุดรวมทั้งสิ้น 460 เมกะวัตต์ และจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 23 แห่ง ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 850 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ และ 27 แห่ง ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,200 เมกะวัตต์ในปี 2556
ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญสูงพร้อมพัฒนาโรงไฟฟ้าให้มีความพร้อมในการให้บริการสูงสุด และทำให้ลูกค้ามีต้นทุนในการดำเนินงานลดลง โดยช่วยป้องกันมิให้เกิดปัญหา ทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและเปี่ยมประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวยังเป็นแหล่งรวมข้อมูลหลากหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ อาทิ ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า สถานะของอุปกรณ์ และข้อมูลทางด้านภูมิอากาศ ซึ่งจะมีการติดตามผลและวิเคราะห์โดยใช้ประสิทธิผลและการดำเนินงานเป็นปัจจัยชี้วัด ทั้งยังมีระบบการวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติเพื่อใช้ในการตรวจ หาปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงไฟฟ้า และจัดส่งทีมซ่อมบำรุงออกไปให้บริการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีระบบแก้ไขปัญหาที่นำข้อมูลทางด้านปฏิบัติการและการซ่อมบำรุงมาใช้ประเมินและคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และกำหนดระยะเวลาซ่อมบำรุงก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น
ระบบควบคุมสุดล้ำ คือ หนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยเฟิร์ส โซลาร์ ซึ่งจะมีสมรรถนะในการบริหารจัดการระบบสายส่งให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากศูนย์ปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากโรงไฟฟ้า นวัตกรรมเทคโนโลยีการควบคุมดังกล่าวจะช่วยควบคุมและจำกัดอัตราความเร็วในการเพิ่มหรือลดปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้า (ramp-rate control) เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับระบบสายส่ง ทั้งยังช่วยขับ เคลื่อนโรงไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องหยุดทำงาน (ride-through) ในขณะที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หรือระบบสายส่งเกิดปัญหา โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและปรับปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้า (active power control) ตลอดจนดูแลและบริหารระบบสายส่งให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่มีการปรับลดความถี่ในการส่งจ่ายไฟ (frequency droop control) นวัตกรรมเหล่านี้จะทำให้ระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สามารถเชื่อมต่อกับระบบสายส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มร.บ็อบ แคลเลรี่ รองประธานโครงการ O&M เฟิร์ส โซลาร์ กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์และการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ทำให้เฟิร์ส โซลาร์เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อนำมาใช้สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของลูกค้าให้สามารถผลิตไฟฟ้าและสร้างรายได้จากสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะการทำงานที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ และสนับสนุนการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของเฟิร์ส โซลาร์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
มร.มาเฮช มอร์จาเรีย รองประธาน กลุ่มธุรกิจ Global Grid Integration เฟิร์ส โซลาร์ กล่าวว่า “จากการที่โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนขนาดใหญ่มีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่งมากขึ้น ความสามารถในการคาดการณ์และความมีเสถียรภาพจึงเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคและผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าคำนึงถึงและให้ความสำคัญสูงสุด เฟิร์ส โซลาร์ได้ใช้เวลาและทรัพยากรต่างๆ ในการออกแบบและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบสายส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีสมรรถนะที่โดดเด่นในการป้องกันมิให้การทำงานต้องหยุดชะงัก และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบนระบบสายส่งได้อย่างรวดเร็ว”