กระทรวงอุตสาหกรรม มองสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มยังแข่งขันในตลาดโลกได้ หากผู้ประกอบการเร่งปรับตัว ชี้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปา) ช่วยดันส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม 10% สินค้ากุ้งรับอานิสงส์โตเพิ่ม 30%
กระทรวงอุตฯ มองสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มยังแข่งขันในตลาดโลกได้หากผู้ประกอบการเร่งปรับตัว ชี้เจเทปาช่วยดันส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม 10% สินค้ากุ้งรับอานิสงส์โตเพิ่ม 30% |
. |
นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการเสวนา "อุตสาหกรรมสิ่งทอและการ์เมนท์ไทยจะก้าวไกลได้อย่างไร" ว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยยังสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยมีสินค้าหลายชนิดที่ไทยผลิตได้มากสุด เช่น เสื้อผ้ากีฬา เสื้อผ้าเด็ก ซึ่งหลังจากลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปา) เชื่อว่าจะช่วยขยายตลาดได้มากขึ้น |
. |
ด้าน นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยระบุว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 10% มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนตลาดญี่ปุ่นน่าจะอยู่ที่ 450 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 10% ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยมองว่า 1 ปีหลังบังคับใช้น่าจะช่วยให้ตลาดเติบโตได้อย่างน้อย 35% โดยเดือนสิงหาคมนี้จะเชิญนักธุรกิจญี่ปุ่นมาหารือในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงเครื่องหนังด้วย ส่วนสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย มองว่าเจเทปาจะผลักดันให้สินค้าในกลุ่มกุ้งขยายตัวได้ถึง 30% ส่วนสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เตรียมหารือกับภาครัฐเพื่อให้สินค้าทูน่าดังกล่าวได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีด้วย |