เตรียมออกโปรดักส์ใหม่ 4-5 รุ่นที่นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ให้แสงสว่าง พร้อมเตรียมบุกตลาดร้านค้าปลีกไอที
ธีระมงคล อุตสาหกรรม หรือ TMI รุกสร้างแบรนด์กาต้า (GATA) มุ่งสู่ความเป็นสินค้านวัตกรรม (Innovative Product) ภายในสิ้นปีนี้ เตรียมออกโปรดักส์ใหม่ 4-5 รุ่นที่นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ให้แสงสว่าง พร้อมเตรียมบุกตลาดร้านค้าปลีกไอที ชูจุดเด่นคุณภาพดีราคาไม่แพงสู้ตลาดสินค้าจากจีน
นายธีระยุทธ์ ประสิทธิรัตนพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI กล่าวว่า บริษัทเตรียมปรับกลยุทธ์ในส่วนของสินค้าแบรนด์กาต้า (GATA) ให้มีสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ ซึ่งสินค้าปัจจุบันเป็นพวกไลน์สินค้าสำหรับผู้ใช้ทั่วไปอยู่กว่า100 รุ่น หลักๆคือ กลุ่มสินค้าที่ให้แสงสว่างอย่าง เช่น บัลลาสต์ หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หลอดตะเกียบ เป็นต้น
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Research&Development) ของบริษัทมีการพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาโดยอาศัยจุดแข็งความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า (Power Supply) โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทฯจะทยอยเปิดตัวในเร็วๆนี้ คือ คาร์ชาร์จเจอร์ (Car Charger) ตัวชาร์จแบตเตอรี่ภายในรถยนต์ สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน จุดเด่นของสินค้าคือมีกำลังกระแสไฟฟ้ามากกว่าที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ทำให้สามารถชาร์จสินค้าไอทีที่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูงกว่าสมาร์ทโฟนได้ เช่น พวกแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆที่พัฒนาออกมาแล้ว
ได้แก่
- รางปลั๊กรีโมท(Intelligent Multi-Functional Socket) เป็นรางปลั๊กพร้อมรีโมทคอนโทรล
- รีโมทสวิทช์ (Remote Switch) สามารถใช้สั่งการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าจากระยะไกลด้วยรีโมท
- โมชั่น เซ็นเซอร์ (Motion Sensor) ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด-ปิด อุปกรณ์ไฟฟ้าตามความเคลื่อนไหวของมนุษย์อัตโนมัติ
- โฟโต้ สวิตช์ (Photo Switch) สวิตช์ที่ควบคุมการทำงานด้วยแสงสว่าง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วนี้ คือ รางชาร์จพอร์ตยูเอสบี (6 USB) ซึ่งสามารถชาร์จได้พร้อมกันถึง 6 อุปกรณ์
“นอกจากนี้เพื่อให้แบรนด์กาต้า (GATA) ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปมากขึ้น ทางบริษัทฯเตรียมแผนจะออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าไอทีอีก 4-5 รายการ ภายในสิ้นปีนี้ โดยยังมุ่งเน้นสินค้านวัตกรรม อาศัยจุดแข็งของความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงและราคาที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศจีนได้ ทั้งนี้ภายในห้องวิจัยของเรายังมีแผนพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาดอีกมาก และบริษัทฯได้วางเป้าสำหรับยอดขายสินค้าไอทีไว้ประมาณ 10-20% ในปี 56”
นายธีระยุทธ์ กล่าวอีกว่าสำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้านั้นบริษัทมุ่งตรงไปที่ร้านค้าไอทีปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสินค้าจะตรงไปถึงกลุ่มผู้ใช้งานจริงๆ เช่น ไทวัสดุ คอมเซเว่น โกลบอลเฮ้าส์ เป็นต้น