เนื้อหาวันที่ : 2012-09-04 17:52:34 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1864 views

ฮอนด้า ฟรีด รถอเนกประสงค์ อิสระลงตัวของทุกรูปแบบการใช้ชีวิต

ด้วยดีไซน์ปรับใหม่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว แนวสปอร์ต สะดุดตาในทุกมุมมอง มอบความสะดวกสบาย เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ นำเทรนด์รถครอบครัว ด้วยดีไซน์ปรับใหม่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว แนวสปอร์ต สะดุดตาในทุกมุมมอง มอบความสะดวกสบาย เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ทั้งยังคุ้มค่าในการใช้งานอย่างลงตัว ฟรีดใหม่มี 2 รุ่น คือ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท และรุ่น EL ราคา 949,000 บาท ตั้งเป้าขายที่ 12,000 คันภายในหนึ่งปี


 

 

 

 

ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ นี้ มีการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ให้ความเหนือระดับภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนัง เพิ่มความผ่อนคลายแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางด้วยพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2

พร้อมทั้งให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ผู้โดยสารตอนหลังยังเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะรุ่น EL) เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับผู้โดยสารในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต และยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำในรถระดับเดียวกันด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ ซ้าย-ขวา อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า ฟรีด
 
การเปิดตัวฮอนด้า ฟรีด ใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ผู้บริโภคเริ่มมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานเป็นหลัก รถยนต์ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้สอยแบบสารพัดประโยชน์ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ Multipurpose Utility Vehicle (MUV) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด และเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดต่างๆ รวมไปถึงในญี่ปุ่นและยุโรป”
 
เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2551 และมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และนับเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งในตลาดญี่ปุ่น ภายในหนึ่งปี ฟรีด สามารถทำยอดการจำหน่ายได้สูงถึง 77,000 คัน และยังได้รับรางวัล “รถยนต์อันทรงคุณค่า” ประจำปี 2551-2552 ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทย ฮอนด้ามีการนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 เป็นต้นมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 11,400 คัน (ม.ค. 2553 – ก.ค. 2555)
 
มีจุดเด่นในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางพื้นที่ใช้สอย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ขับขี่ง่าย  ปลอดภัย  ห้องโดยสารของฟรีดได้รับการออกแบบสไตล์ Open Cafe ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เบาะนั่งแถว 3 สามารถปรับพับได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย มีพื้นที่ว่างแนวกลางที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเดินถึงกันได้แบบ Walk Through มีประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งด้านซ้ายและขวาให้ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงหรือขนย้ายสัมภาระแม้จอดในพื้นที่แคบ 
 
ถือเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนเมืองครบทั้ง 3 มิติ มิติที่ 1 เป็นรถยนต์ที่อำนวยความสะดวกสำหรับงานอดิเรกในวันว่าง เช่น เล่นกีฬาที่มีอุปกรณ์ เช่น ตีกอล์ฟ เล่นเซิร์ฟบอร์ด  ขี่จักรยาน  มิติที่ 2 เติมความสุขให้กับสมาชิกในครอบครัวตลอดการเดินทาง ทั้งยังได้ขยายไปสู่มิติที่ 3 คือให้ความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องพกพาเครื่องมืออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เช่น ช่างภาพ สถาปนิก หรือทำธุรกิจต่างๆ ฮอนด้า ฟรีด จึงถือได้ว่าเป็นยานพาหนะคู่ใจแบบ All-in-One ที่ครบครันด้วยประโยชน์ใช้สอยเหมาะกับทุกคน ทุกครอบครัว ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ผู้เริ่มสร้างครอบครัวไปจนถึงชีวิตครอบครัวใหญ่” 

ยนตรกรรมขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ให้การตอบสนองฉับไว สนุกทุกการขับขี่ พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร  
 
มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียม กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ นอกจากนี้ยังมีพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 ให้ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง
 
ส่วนรุ่น EL ราคา 949,000 บาท เพิ่มความเหนือระดับยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เบาะหนังที่ให้ความสบายแก่ทุกที่นั่ง ระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth กล้องส่องภาพด้านหลัง ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างมั่นใจ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้รับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อม LCD ขนาด 10 นิ้ว
 
ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) (เพิ่ม 10,000 บาท) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีใหม่ คือ สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก)