DRT จัดเต็ม เดินหน้าปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น หลังครึ่งปีแรกทุบสถิติ กวาดรายได้ทะลุ 2 พันล้าน
DRT อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.20 บาท หลังผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 55 โกยรายได้กว่า 2,063 ล้านบาท ผู้บริหารเผยเดินหน้าสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น ชี้ยอดขาย 6 เดือนแรก เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ระบุครึ่งปีหลัง ชูสายการผลิต NT-10 หนุนรายได้โตตามเป้า 10% แน่นอน
วันที่ (30 สิงหาคม 2555) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้ แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จำนวน 1,029.15 ล้านหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินปันผลทั้งสิ้น 205.83 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 2555 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 กันยายน 2555
“บริษัทฯ ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น หลังจากผลการดำเนินงานใน 6 เดือนแรกมีอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งรายได้รวมและกำไรที่ขยายตัวได้ดี ประกอบกับนโยบายของบริษัทฯ ที่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นโดยในครั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 6% ต่อปี” นายอัศนี กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2555) DRT มีรายได้รวม 2,062.78 ล้านบาท หรือเติบโต 8.83% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1,895.46 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 333.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 259.73 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน 2555) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,011.41 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 944.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 141.20 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 130.69 ล้านบาท
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น โดยมีปัจจัยจากภาครัฐที่มีนโยบายเดินหน้าลงทุนระบบสาธารณูปโภคขึ้นพื้นฐาน ที่มีส่วนสำคัญทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินค้าในกลุ่มกระเบื้องมุงหลังคาและกลุ่มไม้สังเคราะห์สูงขึ้น
โดยในส่วนของตราเพชรนั้น จะเร่งเสริมศักยภาพด้านการทำตลาดเพื่อรองรับความต้องการสินค้าในกลุ่มไม้สังเคราะห์ หลังจากได้เริ่มเดินเครื่องสายการผลิต NT-10 เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผลิตสินค้าไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดชนิดบาง ความหนา 3.5-12 มิลลิเมตร ด้วยกำลังการผลิต 7.2 หมื่นตัน ซึ่งช่วยสร้างโอกาสการขายสินค้าผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันมีอัตราการขยายสาขาเพิ่มขึ้นมาก
ขณะเดียวกัน สายการผลิตดังกล่าว ยังส่งผลดีต่อตลาดส่งออกของตราเพชรให้มีโอกาสขยายตัวได้เป็นอย่างดี สำหรับตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศพม่า ที่มีศักยภาพการเติบโตของตลาดได้อีกมาก อีกทั้งบริษัทฯ มีความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจากสายการผลิต NT -10 ดังกล่าว จะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ภายในครึ่งปีหลัง ประมาณ 200 ล้านบาท จึงมั่นใจว่า เป้าหมายยอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ 10% ตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน